วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Style Coffee house

หากเอ่ยถึง "ธุรกิจกาแฟ" คาดว่าเป็นธุรกิจของมนุษย์เงินเดือนอย่างเรานั้น มีความต้องการเปิดร้านมากที่สุด เนื่องจากเป็นการลงทุนที่สามารถควบคุมได้ ทั้งต้นทุน-กำไรและงบดุลที่คาดว่าจะขึ้นลงตามฤดูกาล ดังนั้นการเปิดจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของร้านเอง
ผมได้รับจดหมายฉบับหนึ่งมีเรื่องราวอยู่ว่า "สวัสดีครับทีมงานนิตยสาร SME สร้างอาชีพ ผมเป็นพนักงานประจำบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ผมเก็บหอมรอมริบมาได้ตอนนี้มีงบการลงทุนอยู่ประมาณ 300,000 บาท อยากเปิดร้านกาแฟแบบมืออาชีพเลยเขียนจดหมายเข้ามาขอข้อมูลกับทางทีมงานช่วยหาข้อมูลให้ด้วยครับ"
ผมขอขอบคุณสำหรับจดหมายที่คุณนโรดมเขียนเข้ามาและติดตามนิตยสาร SME สร้างอาชีพมาโดยตลอด ซึ่งผมคิดว่าอากาศช่วงนี้เป็นใจสำหรับการเปิดร้านกาแฟมากๆ ไม่ว่าลูกค้าจะติดฝนอยู่ที่ใดร้านกาแฟเป็นหนึ่งในอีกกว่าหลายร้อยร้านที่จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างแน่นอน ส่วนวิธีการเปิดร้านนั้นก็ไม่ยากเลยครับ ผมมีขั้นตอนเด็ดๆ ทริคมันส์ๆ มาให้ได้สัมผัสกรุ่นกลิ่นกาแฟก่อนเปิดร้านกันเลยทีเดียว
ประเทศไทยมีผลผลิตกาแฟประมาณ 80,000 - 100,000 ตัน/ปี* สัดส่วนการบริโภคภายในประเทศประมาณ 30,000 ตัน และอีก 70,000 ตันส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ โดยมีตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สเปน, เยอรมัน, อิตาลี, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น ฯลฯ (*ที่มา : กรมการค้าต่างประเทศ ตัวเลขการส่งออกกาแฟตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2555) โดยปัจจุบันกาแฟถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดอุตสาหกรรมหลักและมีการซื้อขาย (Trade) กาแฟในอีกหลากหลายรูปแบบ (Commodity) เป็นอันดับสองรองจากปิโตรเลียม (Petroleum)

 

ชี้จุดยืนด้วยการเริ่มต้นวางแผนธุรกิจกาแฟ
ธุรกิจร้านกาแฟ มีอัตราการเติบโตรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุหลักๆ อาจสืบเนื่องมาจากธุรกิจร้านกาแฟรายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้ สภาพดังกล่าวสร้างความคึกคักและตื่นตัวให้กับวงการธุรกิจกาแฟเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน กระแสความนิยมการดื่มกาแฟของคนไทยก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมคนไทยนิยมดื่มกาแฟสำเร็จรูปกันเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบันคนไทยได้หันมานิยมเข้าร้านกาแฟสดคั่วบดที่มีการตกแต่งร้านให้หรูหราทันสมัย สะดวกสบาย มีบรรยากาศที่รื่นรมย์สำหรับการดื่มกาแฟมากขึ้น เฉลี่ย 200 แก้ว/คน/ปี (ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปี 2555)

มองการณ์ไกลในอนาคตของตลาดกาแฟ
ดังนั้นจึงวิเคราะห์ได้ว่าอัตราการดื่มกาแฟของคนไทยในอนาคตยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เหตุนี้ทำให้นักลงทุนจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจร้านกาแฟ สภาพการแข่งขันในตลาดโดยรวมจึงดูเหมือนจะรุนแรง แต่เนื่องจากร้านกาแฟส่วนใหญ่ที่มีในปัจจุบัน มักเน้นการขายสินค้าและบริการเสริมอื่นๆ เช่น ขนมเค้ก คุกกี้ แซนด์วิช บางแห่งมีบริการอินเตอร์เน็ตให้กับลูกค้าด้วย เมื่อแต่ละร้านมีจุดขายที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค แตกต่างกันไป ประกอบกับคอกาแฟในตลาดยังมีหลายกลุ่ม การแข่งขันในตลาดจึงยังไม่รุนแรงหรือชัดเจนเท่าใดนัก แต่อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในอนาคตมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

ทริคสำคัญของการเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟ
ทั้งนี้ก่อนเริ่มทำธุรกิจผู้ประกอบการควรเลือก "ทำเล" ที่ตั้งให้เหมาะสม ศึกษาว่ากลุ่มลูกค้ามีพฤติกรรมชอบดื่มกาแฟมากน้อยแค่ไหน คู่แข่งเยอะไหม จุดไหนที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกดื่มกาแฟของร้าน หรืออะไรที่ทำให้ธุรกิจแตกต่างไปจากร้านอื่นๆ ผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการเข้ามาลงทุน ควรสร้างความแตกต่างไปจากผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาด ทั้งรูปแบบการตกแต่งร้านกาแฟและรสชาติของสินค้า สิ่งเหล่านี้ผู้ประกอบการจะต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเปิดธุรกิจร้านกาแฟ

มองกลุ่มเป้าหมายให้เฉียบ
ร้านกาแฟในปัจจุบัน มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก ได้แก่ นักธุรกิจ นักศึกษา คนทำงาน และนักท่องเที่ยว มุ่งไปที่การขายกาแฟเป็นหลัก หรือบางร้านกาแฟบางแห่งก็มีชื่อเสียงในเรื่องขนม ของว่าง เช่น เค้ก คุกกี้ ไอศกรีม สลัด แซนด์วิช ที่นำมาขายเป็นธุรกิจเสริมร่วมกับกาแฟ ฉะนั้นผู้ลงทุนที่สนใจหรือตัดสินใจในการลงทุนร้านกาแฟ จึงอาจหาสินค้าเสริมเข้ามาขายร่วมกับกาแฟ เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น

การตลาด 4p เอามาใช้เพื่อเปิดมุมมอง
เมื่อวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายแล้วว่ากลุ่มเปาหมายเป็นกลุ่มใด สิ่งที่ต้องคำนึงถึงลำดับต่อมา ดังนี้
ด้านผลิตภัณฑ์ ผู้ลงทุนควรใส่ใจตั้งแต่เรื่องการผลิตจะต้องคิดค้นพัฒนาสูตรเครื่องดื่มกาแฟให้มีหลากหลายรสชาติและกลิ่นหอม สะอาดปลอดภัย ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค สร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคได้ สิ่งสำคัญต่อมาคือ บรรจุภัณฑ์ ที่สวยงาม โดดเด่น และแตกต่างไปจากสินค้าที่มีในตลาด เพื่อสร้างบรรยากาศของการดื่มกาแฟให้ได้รสชาติยิ่งขึ้น
ช่องทางการจัดจำหน่าย ร้านกาแฟสดส่วนใหญ่จะมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่มุ่งไปตามย่านธุรกิจแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ต่างๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต สถาบันการศึกษา ใกล้โรงภาพยนตร์ ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น
ราคา เครื่องดื่มกาแฟตามร้านกาแฟสดทั่วไป มีระดับราคาตั้งแต่ 35 บาท ไปจนถึง 100 กว่าบาท ส่วนใหญ่การตั้งราคาพิจารณาจากต้นทุนวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตดังนั้นราคาเครื่องดื่มที่ผลิตขึ้นจึงแตกต่างกันไปตามต้นทุนวัตถุดิบที่นำมาใช้บวกกับค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินงานโดยการกำหนดราคาผู้ประกอบการจะต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับคุณภาพและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
การส่งเสริมการขาย ส่วนใหญ่ธุรกิจร้านกาแฟจะเน้นการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และแผ่นพับ หรือ Direct Mail เพราะสื่อเหล่านี้นำเสนอให้เห็นภาพลักษณ์ของสินค้าที่ดีชื่อสินค้าและตราสินค้า เพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้เร็วด้วยต้นทุนที่ต่ำ การประชาสัมพันธ์ที่ดีอีกวิธีคือ การสร้างมาตรฐานของร้านให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค จนนำไปบอกกล่าวกันแบบปากต่อปาก วิธีนี้ได้ผลดีมากสำหรับธุรกิจร้านกาแฟ

รูปแบบการลงทุนร้านกาแฟ
ธุรกิจร้านกาแฟมีลักษณะการลงทุนใน 3 รูปแบบหลักๆ ดังนี้
ร้านสแตนอะโลน (Stand - Alone) เป็นอาคารอิสระหรือห้องเช่าที่มีพื้นที่ประมาณ 50 ต.ร.ม. ขึ้นไป ร้าน Stand - Alone อาจตั้งอยู่ตามย่านชุมชน ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน หรือพลาซ่าใหญ่ๆ
คอร์เนอร์ (Corner/Kiosk) ร้านกาแฟขนาดกลาง ใช้พื้นที่ประมาณ 6 ต.ร.ม.ขึ้นไป ลักษณะเป็นมุมกาแฟภายในอาคาร ศูนย์การค้า หรือพลาซ่า ร้านกาแฟประเภทนี้อาจจัดให้มีที่นั่ง จำนวนเล็กน้อย
รถเข็น (Cart) ร้านกาแฟขนาดเล็ก ใช้พื้นที่ประมาณ 3 ต.ร.ม. สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก หาทำเลที่ตั้งได้ง่าย ทำให้เข้าถึงตลาดได้ทุกระดับ

งบประมาณการลงทุนที่กำหนดเองได้
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเปิดร้านกาแฟในรูปแบบ Stand Alone จะใช้เงินลงทุนเริ่มแรกประมาณ 300,000 ถึง 1,500,000 บาท ซึ่งโครงสร้างต้นทุนของร้านกาแฟรูปแบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน คือ
1. ลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ประมาณ 90% ได้แก่ ค่าก่อสร้างออกแบบและตกแต่งสถานที่ ค่าวางระบบต่างๆ (ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ระบบเก็บเงิน) ค่าอุปกรณ์
2. เงินทุนหมุนเวียนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณ 10% ได้แก่ ค่าวัตถุดิบสินค้า ค่าบรรจุภัณฑ์ ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าพื้นที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ส่วนในการเปิดร้านรูปแบบอื่นๆ ก็จะราคาต่ำลงได้อีกหากผู้ลงทุนมีการวางแผนการตลาดที่ดี
*** โครงสร้างการลงทุนข้างต้น ได้จากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ ณ เดือนมิถุนายน 2556
 
4 ทริคการสร้างแบรนด์สำหรับร้านกาแฟ
การสร้างแบรนด์ตราสินค้า คือ การสร้างความแตกต่างของตัวสินค้าในที่นี้คือกาแฟและร้านกาแฟ ให้เกิดขึ้นในจิตใจของลูกค้า หมายถึงว่าถ้าลูกค้าคิดถึงร้านกาแฟที่ตัวเองชอบก็จะนึกร้านของคุณขึ้นมาทันที โดยมีทริควิธีการตั้งชื่อร้านง่ายๆ คือ ชื่อร้าน การตั้งชื่อร้านที่ดี นั้นคือต้องง่ายต่อการจดจำ การสร้างเรื่องราว ให้คนสนใจและจดจำ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ต้องพิจารณาว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายหรือเปล่า และ ตัวอักษรโลโก้ ตราสินค้า จะใช้ตัวอักษรแบบไหนที่ลูกค้าเห็นและจำได้ทัน โดยหลักการถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็ให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่จะจดจำง่ายกว่าตัวพิมพ์เล็ก และที่สำคัญคือเรื่องของสี คนส่วนใหญ่จะนึกถึงกาแฟก็จะนึกถึงสีน้ำตาล น้ำตาลอ่อนและน้ำตาลเข้ม เป็นต้น
 สายพันธุ์กาแฟ
กาแฟมีสายพันธุ์หลักๆ 2 พันธุ์ คือ
กาแฟพันธุ์อราบิก้า (Arabica) ปลูกที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 3,000 ฟุต ให้ผลผลิตสม่ำเสมอ รสหอมกลมกล่อม ในเมล็ดกาแฟพันธุ์อราบิก้ามีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่าพันธุ์โรบัสต้า ประมาณ 1 เท่า ผลผลิตของกาแฟทั่วโลกเป็นกาแฟพันธุ์อราบิก้า 75%
กาแฟพันธุ์โรบัสต้า (Robusta) ปลูกในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่มากนัก ส่วนใหญ่ปลูกในประเทศแถบร้อนชื้น มีรสชาติเข้มข้น หอมฉุนกว่ากาแฟพันธุ์อราบิก้า มีสัดส่วนของผลผลิตกาแฟทั่วโลก 25%
 วิธีการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟ
ก่อนซื้อควรจะต้องดู วันเดือนปีผลิตและวันหมดอายุ ปกติกาแฟเมื่อเก็บในถุงฟอยด์ ที่วางขายจะมีอายุในช่วง สูงสุด 6 - 12 เดือน ขึ้นกับชนิดของถุงที่บรรจุ เพราะคุณภาพจะลดลงตามการเวลา โดย กาแฟจะหอมที่สุดเมื่อคั่วได้ 5 วัน และจะค่อยลดระดับลงเรื่อยๆ เวลาเลือกซื้อ อย่าลืม ดูถุงที่ใหม่ ได้กาแฟหอมกรุ่นกว่า
ควรเลือกถุงขนาดเล็ก ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 200-250 กรัม และควรใช้ให้หมดใน 1 สัปดาห์เมื่อเปิดถุงแล้วถุงกาแฟที่ระบุว่า Single Origin พร้อมชื่อเมืองต่างๆ แสดงว่าเป็นอราบิก้าของที่นั้น มีเทคนิคการคั่วที่ดี และเป็นรสชาติพิเศษของที่นั้น เช่น Omkoi Estate หากข้างซองระบุว่า Espresso คือเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วใน ระดับเข้ม หรือ Dark Roast ส่วนซองที่ระบุว่า Medium Roast คือ เมล็ดกาแฟที่คั่วระดับกลาง ดื่มได้เรื่อยๆ เหมาะสำหรับเสิร์ฟในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าผู้ดื่มชอบรสแบบไหนควรซื้อกาแฟในซองระบายอากาศ Freshness wolves เพราะว่าเมล็ดกาแฟจะคายอากาศและความชื้นตลอดเวลา หากการระบายอากาศไม่ได้จะเสียคุณภาพเร็วยิ่งขึ้น และมีผลให้กาแฟมีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์เก็บเมล็ดกาแฟให้พ้นแสงแดดการเก็บควรที่จะเก็บในขวดสุญญากาศ อย่าเก็บเม็ดในตู้เย็นเพราะว่าเมื่อออกจากตู้เจออากาศร้อนเมล็ดกาแฟจะชื้น ทำให้ติดกับเครื่องบดและมีกลิ่นจากตู้เย็นมาติดด้วย

การเลือกซื้ออุปกรณ์เข้าร้านกาแฟ
หลายต่อหลายคนหมดค่าใช้จ่ายไปกับการซื้อเครื่องชงกาแฟหลายแสน เปิดได้สักปีก็ปิดกิจการขายเครื่องคืนเหลือไม่กี่บาท หรือขายไม่ได้ การเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์กาแฟนั้นเป็นสิ่งถูกต้องที่สุดว่า เครื่องชงราคาแพงจะได้คุณภาพน้ำกาแฟที่ดีด้วย แต่ถ้าซื้อเครื่องขนาดสองแสนกว่าบาทมาชงขายแก้วละ 20 - 35 บาท ปกติราคานี้หักค่าวัตถุดิบ ไม่รวมค่าเช่า ค่าพนักงาน จะมีกำไรประมาณ 10 กว่าบาท เอาไปหารค่าเครื่องเอาว่าเมื่อไหร่จะคืนทุน ดังนั้นวิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟที่ดีที่สุดเลือกให้เหมาะกับขนาดธุรกิจและกลุ่มลูกค้า เช่น ถ้าจะขายสัก 30 - 35 บาท ก็เครื่องชงสัก 5 หมื่นก็ได้ ถ้าจะขายสัก 40 - 50 บาทขึ้นไปก็สามารถใช้เครื่องเป็นแสนได้เลย เพราะอย่างน้อยคุณคงมีเงินค่าแต่งร้านอีกหลายแสนอยู่
 

 ประเภทของกาแฟที่ควรมีในร้าน
เอสเพรสโซ คือ กาแฟที่ถูกเตรียมด้วยเครื่องเอสเปรสโซ แมชีน และใช้กาแฟคั่วระดับที่เข้มบดละเอียดให้รสชาติเข้มข้น นิยมใช้กาแฟอราบิก้า จะเสริฟในถ้วยขนาดเล็กไม่เกิน 1.5 ออนซ์ ซึ่งกาแฟเอสเปรสโซ่จะเป็นตัวเบสพื้นฐานในการชงกาแฟอื่นๆ
กาแฟอเมริกันโน่ คือ กาแฟ เอสเพรสโซ + น้ำร้อน
กาแฟลาเต้ คือ กาแฟเอสเพรสเข้มข้นประมาณ 1.5 ออนซ์ + นมร้อน ประมาณ 6 ออนซ์และแต่งด้วยฟองนมเล็กน้อย ด้านบน รสชาติจะหอมละมุ่นด้วยกลิ่นนมและกาแฟ
กาแฟคาปุชิโน่ คือ กาแฟเอสเพรสโซ + นมร้อน 1 ส่วน และฟองนม 1 ส่วน และนิยมโรยหน้าด้วยผงซินนาม่อนหรือผงช็อกโกแลต
กาแฟมอคค่า คือ เอสเพรสโซ่ น้ำเชื่อมช็อคโกแลต นมร้อน และปิดหน้าด้วย วิปปิ้งครีม แต่งหน้าด้วยผงช็อคโกแลต
กาแฟเฟรนเพรส คือ การชงกาแฟด้วยแก้ว French Press เวลา ดื่มจะต้องกดก้านกรองของแก้วลงก้านตะแกรงกรองจะแยกชั้นระหว่างน้ำกาแฟและผง กาแฟ ซึ่งวิธีการชงแบบนี้จะพบได้ตามร้านอาหาร โฮมเมท ตามสุขุมวิทหรือสีลม

วิธีการบริหารร้านเบื้องต้นสำหรับมือใหม่หัดขาย
สิ่งสำคัญที่เป็นองค์ประกอบหลักในการทำธุรกิจคือ เจ้าของร้าน โดยเฉพาะถ้าเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่เจ้าของเป็นผู้บริหารเอง ทั้งนี้ ขอกล่าวในลักษณะที่ เจ้าของบริหารเอง หากเป็นเจ้าของจ้างคนอื่นมาบริหารหรือจ้างผู้จัดการร้าน และไม่เอาใจใส่ บอกได้เลย เตรียมตัวให้ดีกับปัญหาที่ตามมา นอกจากนี้เจ้าของร้านเองจะต้องมีความสุขกับการค้าขาย มีความมุ่งมั่นเป็นแรงบันดาลใจอย่างยิ่งใหญ่ในการที่จะทำธุรกิจ มีความพร้อมและความอดทนที่จะเป็นนายคนอื่น มีทุนทรัพย์ (เงินลงทุน) ที่เพียงพอต่อการทำธุรกิจ

What's happen?
1. สำรวจความพร้อมของตนเองพร้อมหรือยัง?
2. มีเงินออมมากพอไหม และที่สำคัญมีเวลาให้กับธุรกิจกาแฟที่คุณรักหรือยัง?
3. หาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจกาแฟและร้านกาแฟแล้วหรือยัง?
4. มองหาทำเลทองสำหรับเปิดร้านกาแฟได้หรือยัง?

และผมมีร้านกาแฟตามสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะในประเทศหรือนอกประเทศเพื่อให้ท่านได้เกิดประกายแนวคิดในการเลือกตกแต่งร้านของตัวเองก่อนอื่นเรามาดูสไตล์ที่น่าตกแต่งกัน
1. Too Fast Too Sleep






          มาเริ่มต้นกันที่ร้านแรกนั่นก็คือ ร้านกาแฟใจกลางเมืองกรุงสุดชิล ที่ตอบโจทย์ในทุกคำถาม เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่เงียบสงบนั่งอ่านหนังสือ หรือคิดไอเดียบรรเจิดในการทำงาน แถมยังเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ตอบโจทย์คนที่ต้องนอนดึกหรือตื่นขึ้นมาทำงานดึก ๆ อ่านหนังสือดึก ๆ ได้เป็นอย่างดี สำหรับลักษณะของร้านให้ความรู้สึกเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่สไตล์อังกฤษที่หลุดออกมาจากในหนัง เน้นการใช้โทนสีน้ำตาลสีไม้อ่อนและสีน้ำเงินให้ความรู้สึกสบาย ๆ อบอุ่นเหมือนนอนอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน รวมไปถึงโต๊ะ เก้าอี้ หรือจะเลือกนั่งเบาะที่พื้น นอนเล่นที่โซฟา ที่นี่ก็มีพร้อมบริการทุกอย่างเช่นกัน สำหรับเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ เช่น กาแฟผสมนมช็อกโกแลต โรยหน้าด้วยผงช็อกโกแลต, กาแฟแบบมอคค่าใส่ช็อกโกแลต (ที่ให้ความก้ำกึ่งระหว่างกาแฟแบบลาเต้กับมอคค่า) และกระเจี๊ยบรูทเบียร์ ส่วนเมนูของหวานเป็นโฮมเมด ทำเอง คิดสูตรเอง อย่าง เครปเค้ก, เบเกอรี่, ช็อกโกแลตบราวนี่ เป็นต้น

           บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
           ที่อยู่ : 754 ถนนพระราม 4 ตรงข้ามจามจุรีสแควร์ กรุงเทพฯ
           โทรศัพท์ : 08 6300 9955
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Too Fast Too Sleep



วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

โปรแกรม iTools

ดาวน์โหลดโปรแกรม iTools
iTools (ดาวน์โหลด iTools โปรแกรมจัดการ iPhone iPad iPod) : สำหรับโปรแกรมนี้มีชื่อว่า โปรแกรม iTools เป็นโปรแกรมที่จะทำให้คุณสามารถจัดการกับอุปกรณ์ จากค่ายแอปเปิล (Apple) ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย พัฒนาโดยผู้พัฒนาชาวจีน โดยมัน จะใช้สำหรับ ใครที่มีเครื่องโทรศัพท์มือถือไอโฟน (iPhone) เครื่องแท็บเล็ตไอแพด (iPad) หรือแม้แต่เครื่องฟังเพลงพกพาไอพอดทัช (iPod Touch) ก็สามารถใช้ โปรแกรมนี้ช่วยดูแลจัดการ สำรองข้อมูลจากเครื่องลงบนคอมฯ ได้ง่ายๆ สำหรับใครที่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ หรือจะเอาเครื่องไปซ่อม
โดย โปรแกรม iTools สามารถจัดการในส่วนของ รายชื่ผู้ติดต่อ (Contact), จัดการแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมไปถึงการ จัดการรูปถ่าย และ คลิปวีดีโอ (Photo / Video) และอื่นๆ ได้ อย่างง่ายดาย เหมือนคุณ โหลด iTunes เลยหรือจะเป็นการตัดริงโทน (Ringtone บนเครื่อง iPhone) เปลี่ยนธีมโปรแกรม LINE ขำๆ โดย (iTunes ทำไม่ได้) โปรแกรม iTools ก็ถือเป็นโปรแกรมจัดการ iPhone ที่ให้คุณดาวน์โหลดฟรีๆ ไม่จำเป็นต้องติดตั้ง และ ไม่มีโฆษณา หรือ Plugins เสริมอื่นๆ ให้กวนใจ
นอกจากนี้ iTools ยังมีฟีเจอร์เด่นๆ อื่นๆ อีกมากมาย แนะนำสาวก Apple ดาวน์โหลดไปใช้เลยครับ แล้วจะรู้ว่า iTools นี้ ดี และมีประโยชน์จริงๆ และในเวอร์ชั่นใหม่นี้สนับสนุนการทำงานกับ ระบบปฏิบัติการ iOS7 แล้ว แต่ก็ยังสนับสนุนการทำงานบนระบบ iOS6 อยู่ด้วยเช่นกัน

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คอมพิวเตอร์ และ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

4.1 ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

       ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือระบบเน็ตเวิร์ก คือ กลุ่มของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกนำมาเชื่อมต่อกันเพื่อให้ผู้ใช้ในเครือข่ายสามารถติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล และใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในเครือข่ายร่วมกันได้"เครือข่ายนั้นมีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกันด้วยคอมพิวเตอร์เพียงสองสามเครื่อง เพื่อใช้งานในบ้านหรือในบริษัทเล็กๆ ไปจนถึงเครือข่ายขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก ส่วน Home Network หรือเครือข่ายภายในบ้าน ซึ่งเป็นระบบ LAN ( Local Area Network) เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กๆ หมายถึง การนำเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ มาเชื่อมต่อกันในบ้าน สิ่งที่เกิดตามมาก็คือประโยชน์ในการใช้คอมพิวเตอร์ด้านต่างๆ

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิเคราะห์ข้อสอบ o-net คอมพิวเตอร์ปี 54


วิเคราะห์ข้อสอบo-net คอมพิวเตอร์ปี 54 บางข้อ
1.ปัจจุบันเครื่องรับโทรทัศน์ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่โดยมีขนาดบางและความคมชัดสูงซึ่งเลือกใช้จอแสดงภาพชนิดใด

1.CRT
2.LCD
3.LED
4.PLASMA


เฉลย ข้อ


จอ LED ย่อมาจาก Light Emitting Diode LED คือหลอดไฟขนาดจิ๋วแต่แจ่วซึ่งใช้ หลอด LED เป็นตัวกำหนดแสงและมีLiquid Crystaเป็นผลึกแข็งกี่งเหลวคอยบิดตัวเป็นองศาเพื่อให้แสงจาก หลอด LED ส่องลอดออกมาเป็นสีต่าง ๆ จอ LED ไม่เป็นที่นิยมของตลาดเพราะมีราคาแพงแต่มีขนาดบาง ความคมชัดสูงมียี่ห้อเดียวคือซัมซุง


จอ LCD ใช้หลอดไฟ CCFL ซึ่งมีลักษณะเป็นหลอดผอมคล้ายๆหลอดกาแฟเรียงในแนวนอนยาว ลงมาเป็นตัวกำเนิดแสงและมีliquid Crystal คอยบิดตัวเป็นองศาเพื่อให้แสงแบคไลต์(สีขาว) ลอดผ่านทะลุ Color Filter แม่สี3 สีเพื่อแสดงออกมาเป็นสีสันต่างๆแต่สีและความคมชัดไม่เท่าจอ LED 




CRT คือ ข้อดีของจอ CRT:รองรับการแสดงผลได้หลากหลายมีอัตราค่า Refresh Rate ที่สูงกว่า สีสันสดใส คมชัดกว่า ข้อด้อย:ขนาดใหญ่ น้ำหนักมากสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่ามีความร้อนสูง



สำหรับจอplasma มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 42 นิ้ว – 150 นิ้วเหมาะในการดูกีฬาและภาพยนต์ แอคชั่นแต่สีเป็นธรรมชาติแต่สิ้นเปลืองค่าไฟฟ้าเพาะเครื่องจะระบายความร้อนออกมาสิ้นเปลืองการติด เครื่องปรับอากาศ 

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิเคราะห์หุ้น CK

วิเคราะห์หุ้น CK

CK หรือชื่อบริษัทเต็มๆก็คือบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)หุ้นตัวนี้นั้นถือว่าอยู่มานานมาพอสมควรในวงการด้านอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง ได้มีการซื้อขายวันแรกที่ปี2538 จากวันนั้นสู่วันนี้ ผู้บริหารปลิว ตรีวิศวเวทย์ ได้ขยายกิจการจากรับซ่อมไฟฟ้า ประปา มาเป็นสร้างในโครงการใหญ่ๆไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินในหุ้นของBMCL หรือจะเป็นการบำรุงสร้างในกองทัพ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นโปรเจคใหญ่ทั้งสิ้น

ปัจจุบันไม่ว่าตลาดจะผันผวนหรือดิ่งลงต่ำเท่าไหนหุ้นตัวนี้ก็ยังทนแดดทนฝน ราคาขยับขึ้นลงไม่หวาดเสียวอยู่ที่ 26-27บาท เป็นเช่นนี้ก็เพราะถ้าหากดูจากปัจจัยพื้นฐานที่ผมกำลังจะโชว์ให้ดูแล้วละก็ถึงไม่หวือหวาแต่ก็ไม่ใช่ระดับบริษัทเล็กๆ


ภาพ : http://www.set.or.th/

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ (C/C++/C#/Java)


                                                              กำเนิดภาษา C
ด้วยศักยภาพและเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์ที่แพร่หลาย จึงทำให้มีผู้คิดค้นพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ภาษาซีขึ้น คือ นายเดนนิส ริทชี่ (Dennis Ritchie) ที่ศูนย์วิจัยเบล (Bell Laboratories) ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี ค.ศ.1972 และเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้เขียนระบบปฏิบัติการยูนิกส์ ซึ่งใช้กันแพร่หลายในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ภาษาซีเป็นภาษาที่มีความใกล้เคียงกับภาษาระดับต่ำ (Low-Level Language) จึงทำให้นักพัฒนาโปรแกรมสามารถ ที่จะกำหนดรายละเอียดของโปรแกรมให้เข้าถึงการทำงานในส่วนต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ให้มากที่สุดเพื่อให้เกิดความเร็ว ในการทำงานสูงสุด และในขณะเดียวกันภาษาซีก็ยังมีความเป็นภาษาระดับสูง (High-Level Language) ทำให้ผู้พัฒนา
สามารถที่จะพัฒนาโปรแกรมได้ โดยเน้นไปที่การแก้ปัญหาที่ต้องการได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องคำนึงถึงฮาร์ดแวร์ใด ๆ ภาษาซีเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นาย 
Bjarne Stroustrup นักวิจัยและพัฒนาของศูนย์วิจัยเบล (Bell Laboratioriesได้พัฒนาภาษา C++ (ซีพลัสพลัส) ขึ้นมา โดยที่ภาษา C++ มีความสามารถในการทำงานได้ทุกอย่างเหมือนกับภาษาซี ซึ่งมีรูปแบบและโครงสร้างของภาษาใกล้เคียงกัน แต่ภาษา C++ ใช้หลักการออกแบบโปแกรมเชิงวัตถุ (Object Oriented Design) ในขณะที่ภาษาซีใช้หลักการออกแบบโปรแกรม แบบโมดูลาร์ (Modular Design)
โครงสร้างภาษา C
โปรแกรมภาษาซีมีองค์ประกอบที่สำคัญ 2 ส่วนคือไฟล์ส่วนหัวโปรแกรม และไฟล์โปรแกรม ไฟล์ส่วนหัวโปรแกรมเป็นไฟล์ที่ใช้เก็บไลบราลีเพื่อใช้รวม (include) ในการคอมไพล์โปรแกรมซึ่งจะมีส่วนขยายเป็น *.มีชื่อเรียกว่า Compiler Directive ไฟล์โปรแกรมจะเริ่มต้นด้วยฟังก์ชัน main() และตามด้วยเครื่องหมายปีกกาเปิด เพื่อเริ่มต้นเขียนโปรแกรม การเขียนโปรแกรมจะต้องเขียนด้วยอักษาภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็กเสอม และเมื่อจบประโยคคำสั่ง จะใช้เครื่องหมายเซมิโคล่อน ( ; ) ในการคั่นแต่ละคำสั่ง ภายในโปรแกรมจะประกอบด้วยฟังก์ขันและส่วนของคำอธิบาย เมื่อเขียนคำสั่งเสร็จจะปิดท้ายโปรแกรมด้วยเครื่องหมายปีกกาปิดเสมอ
แสดงโครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี
#include<library>
/* ไฟล์ส่วนหัวโปรแกรม*/
void main(void)
/*ฟังก์ชันหลักของโปรแกรม*/
{
/*เริ่มต้นการเขียนโปรแกรมด้วยเครื่องหมายปีกกาเปิด*/
variable declaration;
/*การประกาศค่าตัวแปรที่ใช้ในโปรแกรม*/
program statement;
/*ประโยคคำสั่งในโปรแกรม*/
}
/*จบการเขียนโปรแกรมด้วยเครื่องหมายปีกกาปิด*/

#include<library>
เป็นส่วนหัวหัว โปรแกรมที่จะต้องเขียนไว้เพื่อให้ใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ในกรณีที่ต้องการทราบว่าฟังก์ชันใดถูกนิยามไว้ที่ใดให้ทำแถบสีที่ฟังก์ชัน ดังกล่าวและกดปุ่ม Ctrl+f1
main
เป็นฟังก์ชันหลักของโปรแกรม
( )
ภายในวงเล็บเป็นค่าพารามิเตอร์ที่จะส่งผ่านไปทำงานยังฟังก์ชันอื่นๆ ถ้าไม่มีการ
ใส่ค่าแสดงว่าไม่ต้องการมีค่าพารามิเตอร์
{
ปีกกาเปิดแสดงการเริ่มต้นการเขียนโปรแกรม
variable declarations
ประกาศตัวแปร
program statement
การเขียนประโยคคำสั่ง
}
ปีกกาปิดแสดงการจบการเขียนโปรแกรม
/*ข้อความ*/
คำอธิบายโปรแกรม ใช้ในการอธิบายความหมายของคำสั่งหรือสิ่งที่ต้องการเขียน
ไว้กันลืมจะไม่มีผลใดๆกับโปรแกรม แต่การเขียนจะต้องเริ่มต้นด้วยเครื่องหมาย /*

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย

Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย
การใช้งานโซเชียลมีเดียกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว บางคนใช้งานจนลืมว่ามีคนรอบข้าjjงอยู่ เพราะอยู่กับในโลกเสมือนที่มีผู้คนมากมายอยู่บนนั้น แต่ถ้าจะให้มองในมุมที่ดีก็เป้นการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว เข้าถึงคนได้ง่าย และใช้อุปกรณ์ที่สามารถต่ออินเทอร์เน็ตก็สามารถใช้ได้แล้ว ทาง Zocial Inc. เลยมีผลการสำรวจถึงพฤติกรรมของผู้ใช้งานว่าในแต่ละวันมีการใช้งานโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้องกับการตลาดอย่างไรบ้าง
Zocial inc. ได้ทำการสำรวจคนไทยกว่า 655 คน เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ Social Media ในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นนอนจนจบวันเข้านอน รวมทั้งพฤติกรรมที่มีต่อกิจกรรมการตลาดบน Social Network ได้ใจความสำคัญดังนี้
การใช้งานโซเชียลมีเดียแต่ละประเภทในในแต่ละวัน
  • 99 % ใช้ Facebook
  • 84 % ใช้ LINE
  • 56 % ใช้ Instagram
  • 41% ใช้ Google+
  • 30% ใช้ Twitter