วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Style Coffee house

หากเอ่ยถึง "ธุรกิจกาแฟ" คาดว่าเป็นธุรกิจของมนุษย์เงินเดือนอย่างเรานั้น มีความต้องการเปิดร้านมากที่สุด เนื่องจากเป็นการลงทุนที่สามารถควบคุมได้ ทั้งต้นทุน-กำไรและงบดุลที่คาดว่าจะขึ้นลงตามฤดูกาล ดังนั้นการเปิดจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของร้านเอง
ผมได้รับจดหมายฉบับหนึ่งมีเรื่องราวอยู่ว่า "สวัสดีครับทีมงานนิตยสาร SME สร้างอาชีพ ผมเป็นพนักงานประจำบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ผมเก็บหอมรอมริบมาได้ตอนนี้มีงบการลงทุนอยู่ประมาณ 300,000 บาท อยากเปิดร้านกาแฟแบบมืออาชีพเลยเขียนจดหมายเข้ามาขอข้อมูลกับทางทีมงานช่วยหาข้อมูลให้ด้วยครับ"
ผมขอขอบคุณสำหรับจดหมายที่คุณนโรดมเขียนเข้ามาและติดตามนิตยสาร SME สร้างอาชีพมาโดยตลอด ซึ่งผมคิดว่าอากาศช่วงนี้เป็นใจสำหรับการเปิดร้านกาแฟมากๆ ไม่ว่าลูกค้าจะติดฝนอยู่ที่ใดร้านกาแฟเป็นหนึ่งในอีกกว่าหลายร้อยร้านที่จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างแน่นอน ส่วนวิธีการเปิดร้านนั้นก็ไม่ยากเลยครับ ผมมีขั้นตอนเด็ดๆ ทริคมันส์ๆ มาให้ได้สัมผัสกรุ่นกลิ่นกาแฟก่อนเปิดร้านกันเลยทีเดียว
ประเทศไทยมีผลผลิตกาแฟประมาณ 80,000 - 100,000 ตัน/ปี* สัดส่วนการบริโภคภายในประเทศประมาณ 30,000 ตัน และอีก 70,000 ตันส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ โดยมีตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สเปน, เยอรมัน, อิตาลี, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น ฯลฯ (*ที่มา : กรมการค้าต่างประเทศ ตัวเลขการส่งออกกาแฟตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2555) โดยปัจจุบันกาแฟถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดอุตสาหกรรมหลักและมีการซื้อขาย (Trade) กาแฟในอีกหลากหลายรูปแบบ (Commodity) เป็นอันดับสองรองจากปิโตรเลียม (Petroleum)

 

ชี้จุดยืนด้วยการเริ่มต้นวางแผนธุรกิจกาแฟ
ธุรกิจร้านกาแฟ มีอัตราการเติบโตรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุหลักๆ อาจสืบเนื่องมาจากธุรกิจร้านกาแฟรายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้ สภาพดังกล่าวสร้างความคึกคักและตื่นตัวให้กับวงการธุรกิจกาแฟเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน กระแสความนิยมการดื่มกาแฟของคนไทยก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมคนไทยนิยมดื่มกาแฟสำเร็จรูปกันเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบันคนไทยได้หันมานิยมเข้าร้านกาแฟสดคั่วบดที่มีการตกแต่งร้านให้หรูหราทันสมัย สะดวกสบาย มีบรรยากาศที่รื่นรมย์สำหรับการดื่มกาแฟมากขึ้น เฉลี่ย 200 แก้ว/คน/ปี (ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปี 2555)

มองการณ์ไกลในอนาคตของตลาดกาแฟ
ดังนั้นจึงวิเคราะห์ได้ว่าอัตราการดื่มกาแฟของคนไทยในอนาคตยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เหตุนี้ทำให้นักลงทุนจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจร้านกาแฟ สภาพการแข่งขันในตลาดโดยรวมจึงดูเหมือนจะรุนแรง แต่เนื่องจากร้านกาแฟส่วนใหญ่ที่มีในปัจจุบัน มักเน้นการขายสินค้าและบริการเสริมอื่นๆ เช่น ขนมเค้ก คุกกี้ แซนด์วิช บางแห่งมีบริการอินเตอร์เน็ตให้กับลูกค้าด้วย เมื่อแต่ละร้านมีจุดขายที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค แตกต่างกันไป ประกอบกับคอกาแฟในตลาดยังมีหลายกลุ่ม การแข่งขันในตลาดจึงยังไม่รุนแรงหรือชัดเจนเท่าใดนัก แต่อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในอนาคตมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

ทริคสำคัญของการเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟ
ทั้งนี้ก่อนเริ่มทำธุรกิจผู้ประกอบการควรเลือก "ทำเล" ที่ตั้งให้เหมาะสม ศึกษาว่ากลุ่มลูกค้ามีพฤติกรรมชอบดื่มกาแฟมากน้อยแค่ไหน คู่แข่งเยอะไหม จุดไหนที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกดื่มกาแฟของร้าน หรืออะไรที่ทำให้ธุรกิจแตกต่างไปจากร้านอื่นๆ ผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการเข้ามาลงทุน ควรสร้างความแตกต่างไปจากผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาด ทั้งรูปแบบการตกแต่งร้านกาแฟและรสชาติของสินค้า สิ่งเหล่านี้ผู้ประกอบการจะต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเปิดธุรกิจร้านกาแฟ

มองกลุ่มเป้าหมายให้เฉียบ
ร้านกาแฟในปัจจุบัน มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก ได้แก่ นักธุรกิจ นักศึกษา คนทำงาน และนักท่องเที่ยว มุ่งไปที่การขายกาแฟเป็นหลัก หรือบางร้านกาแฟบางแห่งก็มีชื่อเสียงในเรื่องขนม ของว่าง เช่น เค้ก คุกกี้ ไอศกรีม สลัด แซนด์วิช ที่นำมาขายเป็นธุรกิจเสริมร่วมกับกาแฟ ฉะนั้นผู้ลงทุนที่สนใจหรือตัดสินใจในการลงทุนร้านกาแฟ จึงอาจหาสินค้าเสริมเข้ามาขายร่วมกับกาแฟ เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น

การตลาด 4p เอามาใช้เพื่อเปิดมุมมอง
เมื่อวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายแล้วว่ากลุ่มเปาหมายเป็นกลุ่มใด สิ่งที่ต้องคำนึงถึงลำดับต่อมา ดังนี้
ด้านผลิตภัณฑ์ ผู้ลงทุนควรใส่ใจตั้งแต่เรื่องการผลิตจะต้องคิดค้นพัฒนาสูตรเครื่องดื่มกาแฟให้มีหลากหลายรสชาติและกลิ่นหอม สะอาดปลอดภัย ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค สร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคได้ สิ่งสำคัญต่อมาคือ บรรจุภัณฑ์ ที่สวยงาม โดดเด่น และแตกต่างไปจากสินค้าที่มีในตลาด เพื่อสร้างบรรยากาศของการดื่มกาแฟให้ได้รสชาติยิ่งขึ้น
ช่องทางการจัดจำหน่าย ร้านกาแฟสดส่วนใหญ่จะมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่มุ่งไปตามย่านธุรกิจแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ต่างๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต สถาบันการศึกษา ใกล้โรงภาพยนตร์ ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น
ราคา เครื่องดื่มกาแฟตามร้านกาแฟสดทั่วไป มีระดับราคาตั้งแต่ 35 บาท ไปจนถึง 100 กว่าบาท ส่วนใหญ่การตั้งราคาพิจารณาจากต้นทุนวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตดังนั้นราคาเครื่องดื่มที่ผลิตขึ้นจึงแตกต่างกันไปตามต้นทุนวัตถุดิบที่นำมาใช้บวกกับค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินงานโดยการกำหนดราคาผู้ประกอบการจะต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับคุณภาพและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
การส่งเสริมการขาย ส่วนใหญ่ธุรกิจร้านกาแฟจะเน้นการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และแผ่นพับ หรือ Direct Mail เพราะสื่อเหล่านี้นำเสนอให้เห็นภาพลักษณ์ของสินค้าที่ดีชื่อสินค้าและตราสินค้า เพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้เร็วด้วยต้นทุนที่ต่ำ การประชาสัมพันธ์ที่ดีอีกวิธีคือ การสร้างมาตรฐานของร้านให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค จนนำไปบอกกล่าวกันแบบปากต่อปาก วิธีนี้ได้ผลดีมากสำหรับธุรกิจร้านกาแฟ

รูปแบบการลงทุนร้านกาแฟ
ธุรกิจร้านกาแฟมีลักษณะการลงทุนใน 3 รูปแบบหลักๆ ดังนี้
ร้านสแตนอะโลน (Stand - Alone) เป็นอาคารอิสระหรือห้องเช่าที่มีพื้นที่ประมาณ 50 ต.ร.ม. ขึ้นไป ร้าน Stand - Alone อาจตั้งอยู่ตามย่านชุมชน ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน หรือพลาซ่าใหญ่ๆ
คอร์เนอร์ (Corner/Kiosk) ร้านกาแฟขนาดกลาง ใช้พื้นที่ประมาณ 6 ต.ร.ม.ขึ้นไป ลักษณะเป็นมุมกาแฟภายในอาคาร ศูนย์การค้า หรือพลาซ่า ร้านกาแฟประเภทนี้อาจจัดให้มีที่นั่ง จำนวนเล็กน้อย
รถเข็น (Cart) ร้านกาแฟขนาดเล็ก ใช้พื้นที่ประมาณ 3 ต.ร.ม. สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก หาทำเลที่ตั้งได้ง่าย ทำให้เข้าถึงตลาดได้ทุกระดับ

งบประมาณการลงทุนที่กำหนดเองได้
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเปิดร้านกาแฟในรูปแบบ Stand Alone จะใช้เงินลงทุนเริ่มแรกประมาณ 300,000 ถึง 1,500,000 บาท ซึ่งโครงสร้างต้นทุนของร้านกาแฟรูปแบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน คือ
1. ลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ประมาณ 90% ได้แก่ ค่าก่อสร้างออกแบบและตกแต่งสถานที่ ค่าวางระบบต่างๆ (ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ระบบเก็บเงิน) ค่าอุปกรณ์
2. เงินทุนหมุนเวียนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณ 10% ได้แก่ ค่าวัตถุดิบสินค้า ค่าบรรจุภัณฑ์ ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าพื้นที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ส่วนในการเปิดร้านรูปแบบอื่นๆ ก็จะราคาต่ำลงได้อีกหากผู้ลงทุนมีการวางแผนการตลาดที่ดี
*** โครงสร้างการลงทุนข้างต้น ได้จากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ ณ เดือนมิถุนายน 2556
 
4 ทริคการสร้างแบรนด์สำหรับร้านกาแฟ
การสร้างแบรนด์ตราสินค้า คือ การสร้างความแตกต่างของตัวสินค้าในที่นี้คือกาแฟและร้านกาแฟ ให้เกิดขึ้นในจิตใจของลูกค้า หมายถึงว่าถ้าลูกค้าคิดถึงร้านกาแฟที่ตัวเองชอบก็จะนึกร้านของคุณขึ้นมาทันที โดยมีทริควิธีการตั้งชื่อร้านง่ายๆ คือ ชื่อร้าน การตั้งชื่อร้านที่ดี นั้นคือต้องง่ายต่อการจดจำ การสร้างเรื่องราว ให้คนสนใจและจดจำ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ต้องพิจารณาว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายหรือเปล่า และ ตัวอักษรโลโก้ ตราสินค้า จะใช้ตัวอักษรแบบไหนที่ลูกค้าเห็นและจำได้ทัน โดยหลักการถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็ให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่จะจดจำง่ายกว่าตัวพิมพ์เล็ก และที่สำคัญคือเรื่องของสี คนส่วนใหญ่จะนึกถึงกาแฟก็จะนึกถึงสีน้ำตาล น้ำตาลอ่อนและน้ำตาลเข้ม เป็นต้น
 สายพันธุ์กาแฟ
กาแฟมีสายพันธุ์หลักๆ 2 พันธุ์ คือ
กาแฟพันธุ์อราบิก้า (Arabica) ปลูกที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 3,000 ฟุต ให้ผลผลิตสม่ำเสมอ รสหอมกลมกล่อม ในเมล็ดกาแฟพันธุ์อราบิก้ามีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่าพันธุ์โรบัสต้า ประมาณ 1 เท่า ผลผลิตของกาแฟทั่วโลกเป็นกาแฟพันธุ์อราบิก้า 75%
กาแฟพันธุ์โรบัสต้า (Robusta) ปลูกในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่มากนัก ส่วนใหญ่ปลูกในประเทศแถบร้อนชื้น มีรสชาติเข้มข้น หอมฉุนกว่ากาแฟพันธุ์อราบิก้า มีสัดส่วนของผลผลิตกาแฟทั่วโลก 25%
 วิธีการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟ
ก่อนซื้อควรจะต้องดู วันเดือนปีผลิตและวันหมดอายุ ปกติกาแฟเมื่อเก็บในถุงฟอยด์ ที่วางขายจะมีอายุในช่วง สูงสุด 6 - 12 เดือน ขึ้นกับชนิดของถุงที่บรรจุ เพราะคุณภาพจะลดลงตามการเวลา โดย กาแฟจะหอมที่สุดเมื่อคั่วได้ 5 วัน และจะค่อยลดระดับลงเรื่อยๆ เวลาเลือกซื้อ อย่าลืม ดูถุงที่ใหม่ ได้กาแฟหอมกรุ่นกว่า
ควรเลือกถุงขนาดเล็ก ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 200-250 กรัม และควรใช้ให้หมดใน 1 สัปดาห์เมื่อเปิดถุงแล้วถุงกาแฟที่ระบุว่า Single Origin พร้อมชื่อเมืองต่างๆ แสดงว่าเป็นอราบิก้าของที่นั้น มีเทคนิคการคั่วที่ดี และเป็นรสชาติพิเศษของที่นั้น เช่น Omkoi Estate หากข้างซองระบุว่า Espresso คือเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วใน ระดับเข้ม หรือ Dark Roast ส่วนซองที่ระบุว่า Medium Roast คือ เมล็ดกาแฟที่คั่วระดับกลาง ดื่มได้เรื่อยๆ เหมาะสำหรับเสิร์ฟในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าผู้ดื่มชอบรสแบบไหนควรซื้อกาแฟในซองระบายอากาศ Freshness wolves เพราะว่าเมล็ดกาแฟจะคายอากาศและความชื้นตลอดเวลา หากการระบายอากาศไม่ได้จะเสียคุณภาพเร็วยิ่งขึ้น และมีผลให้กาแฟมีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์เก็บเมล็ดกาแฟให้พ้นแสงแดดการเก็บควรที่จะเก็บในขวดสุญญากาศ อย่าเก็บเม็ดในตู้เย็นเพราะว่าเมื่อออกจากตู้เจออากาศร้อนเมล็ดกาแฟจะชื้น ทำให้ติดกับเครื่องบดและมีกลิ่นจากตู้เย็นมาติดด้วย

การเลือกซื้ออุปกรณ์เข้าร้านกาแฟ
หลายต่อหลายคนหมดค่าใช้จ่ายไปกับการซื้อเครื่องชงกาแฟหลายแสน เปิดได้สักปีก็ปิดกิจการขายเครื่องคืนเหลือไม่กี่บาท หรือขายไม่ได้ การเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์กาแฟนั้นเป็นสิ่งถูกต้องที่สุดว่า เครื่องชงราคาแพงจะได้คุณภาพน้ำกาแฟที่ดีด้วย แต่ถ้าซื้อเครื่องขนาดสองแสนกว่าบาทมาชงขายแก้วละ 20 - 35 บาท ปกติราคานี้หักค่าวัตถุดิบ ไม่รวมค่าเช่า ค่าพนักงาน จะมีกำไรประมาณ 10 กว่าบาท เอาไปหารค่าเครื่องเอาว่าเมื่อไหร่จะคืนทุน ดังนั้นวิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟที่ดีที่สุดเลือกให้เหมาะกับขนาดธุรกิจและกลุ่มลูกค้า เช่น ถ้าจะขายสัก 30 - 35 บาท ก็เครื่องชงสัก 5 หมื่นก็ได้ ถ้าจะขายสัก 40 - 50 บาทขึ้นไปก็สามารถใช้เครื่องเป็นแสนได้เลย เพราะอย่างน้อยคุณคงมีเงินค่าแต่งร้านอีกหลายแสนอยู่
 

 ประเภทของกาแฟที่ควรมีในร้าน
เอสเพรสโซ คือ กาแฟที่ถูกเตรียมด้วยเครื่องเอสเปรสโซ แมชีน และใช้กาแฟคั่วระดับที่เข้มบดละเอียดให้รสชาติเข้มข้น นิยมใช้กาแฟอราบิก้า จะเสริฟในถ้วยขนาดเล็กไม่เกิน 1.5 ออนซ์ ซึ่งกาแฟเอสเปรสโซ่จะเป็นตัวเบสพื้นฐานในการชงกาแฟอื่นๆ
กาแฟอเมริกันโน่ คือ กาแฟ เอสเพรสโซ + น้ำร้อน
กาแฟลาเต้ คือ กาแฟเอสเพรสเข้มข้นประมาณ 1.5 ออนซ์ + นมร้อน ประมาณ 6 ออนซ์และแต่งด้วยฟองนมเล็กน้อย ด้านบน รสชาติจะหอมละมุ่นด้วยกลิ่นนมและกาแฟ
กาแฟคาปุชิโน่ คือ กาแฟเอสเพรสโซ + นมร้อน 1 ส่วน และฟองนม 1 ส่วน และนิยมโรยหน้าด้วยผงซินนาม่อนหรือผงช็อกโกแลต
กาแฟมอคค่า คือ เอสเพรสโซ่ น้ำเชื่อมช็อคโกแลต นมร้อน และปิดหน้าด้วย วิปปิ้งครีม แต่งหน้าด้วยผงช็อคโกแลต
กาแฟเฟรนเพรส คือ การชงกาแฟด้วยแก้ว French Press เวลา ดื่มจะต้องกดก้านกรองของแก้วลงก้านตะแกรงกรองจะแยกชั้นระหว่างน้ำกาแฟและผง กาแฟ ซึ่งวิธีการชงแบบนี้จะพบได้ตามร้านอาหาร โฮมเมท ตามสุขุมวิทหรือสีลม

วิธีการบริหารร้านเบื้องต้นสำหรับมือใหม่หัดขาย
สิ่งสำคัญที่เป็นองค์ประกอบหลักในการทำธุรกิจคือ เจ้าของร้าน โดยเฉพาะถ้าเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่เจ้าของเป็นผู้บริหารเอง ทั้งนี้ ขอกล่าวในลักษณะที่ เจ้าของบริหารเอง หากเป็นเจ้าของจ้างคนอื่นมาบริหารหรือจ้างผู้จัดการร้าน และไม่เอาใจใส่ บอกได้เลย เตรียมตัวให้ดีกับปัญหาที่ตามมา นอกจากนี้เจ้าของร้านเองจะต้องมีความสุขกับการค้าขาย มีความมุ่งมั่นเป็นแรงบันดาลใจอย่างยิ่งใหญ่ในการที่จะทำธุรกิจ มีความพร้อมและความอดทนที่จะเป็นนายคนอื่น มีทุนทรัพย์ (เงินลงทุน) ที่เพียงพอต่อการทำธุรกิจ

What's happen?
1. สำรวจความพร้อมของตนเองพร้อมหรือยัง?
2. มีเงินออมมากพอไหม และที่สำคัญมีเวลาให้กับธุรกิจกาแฟที่คุณรักหรือยัง?
3. หาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจกาแฟและร้านกาแฟแล้วหรือยัง?
4. มองหาทำเลทองสำหรับเปิดร้านกาแฟได้หรือยัง?

และผมมีร้านกาแฟตามสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะในประเทศหรือนอกประเทศเพื่อให้ท่านได้เกิดประกายแนวคิดในการเลือกตกแต่งร้านของตัวเองก่อนอื่นเรามาดูสไตล์ที่น่าตกแต่งกัน
1. Too Fast Too Sleep






          มาเริ่มต้นกันที่ร้านแรกนั่นก็คือ ร้านกาแฟใจกลางเมืองกรุงสุดชิล ที่ตอบโจทย์ในทุกคำถาม เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่เงียบสงบนั่งอ่านหนังสือ หรือคิดไอเดียบรรเจิดในการทำงาน แถมยังเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ตอบโจทย์คนที่ต้องนอนดึกหรือตื่นขึ้นมาทำงานดึก ๆ อ่านหนังสือดึก ๆ ได้เป็นอย่างดี สำหรับลักษณะของร้านให้ความรู้สึกเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่สไตล์อังกฤษที่หลุดออกมาจากในหนัง เน้นการใช้โทนสีน้ำตาลสีไม้อ่อนและสีน้ำเงินให้ความรู้สึกสบาย ๆ อบอุ่นเหมือนนอนอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน รวมไปถึงโต๊ะ เก้าอี้ หรือจะเลือกนั่งเบาะที่พื้น นอนเล่นที่โซฟา ที่นี่ก็มีพร้อมบริการทุกอย่างเช่นกัน สำหรับเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ เช่น กาแฟผสมนมช็อกโกแลต โรยหน้าด้วยผงช็อกโกแลต, กาแฟแบบมอคค่าใส่ช็อกโกแลต (ที่ให้ความก้ำกึ่งระหว่างกาแฟแบบลาเต้กับมอคค่า) และกระเจี๊ยบรูทเบียร์ ส่วนเมนูของหวานเป็นโฮมเมด ทำเอง คิดสูตรเอง อย่าง เครปเค้ก, เบเกอรี่, ช็อกโกแลตบราวนี่ เป็นต้น

           บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
           ที่อยู่ : 754 ถนนพระราม 4 ตรงข้ามจามจุรีสแควร์ กรุงเทพฯ
           โทรศัพท์ : 08 6300 9955
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Too Fast Too Sleep



Aree Garden








           โครงการ อารีย์การ์เด้น (Aree Garden) เป็นโครงการในย่านซอยอารีย์ ที่เป็นแหล่ง Hang out แห่งใหม่ของคนเมือง มีพื้นที่ขนาดกะทัดรัด 1 ไร่ ภายในโครงการเน้นไอเดียการตกแต่งและจัดวางแบบธรรมชาติ ด้วยการยกป่ามาไว้ในเมืองกรุงเลยก็ว่าได้ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้เป็นที่สำหรับพักผ่อนคลายของชาวกรุง สำหรับร้านกาแฟภายในโครงการก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น ชับบี้ช้างเบเกอรี่แอนด์กิ๊ฟช็อป (Chubby Chang's Bakery & Gift Shop) ร้านของคู่รักลูกครึ่งเยอรมันและอเมริกัน จัดเป็นมุมสำหรับทำอาหารและเบเกอรี ที่ทำกันสดๆ ในร้าน และยังมีมุมเล็ก ๆ สำหรับเด็กให้ระบายสีส่วนอีกมุมเป็นมุมกิ๊ฟช็อป พร้อมทั้งของไทยและต่างประเทศให้เลือก ร้านริซ่า ราโม่ (Risa Lamo) ร้านนี้มีโซนให้นั่งเล่นบริเวณชั้น 2 และบริเวณด้านหน้าใต้ร่มไม้, โพลก้าดอทคาเฟ่ (Polka dot cafe) ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของโครงการอารีย์การ์เด้น เน้นการตะแต่งร้านด้วยโทนสีขาวดำและโดดเด่นที่เคาน์เตอร์บาร์ลายจุดขายดำ

           บริการ : Free Wifi
          
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการวันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 06.30-22.00 น. และวันศุกร์-เสาร์ เวลา 06.30-24.00 น.
          
 ที่อยู่ : ซอยอารีย์สัมพันธ์ 11 ตรงข้ามกระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ
          
 โทรศัพท์ : 0 2617 1599
          
 เว็บไซต์ : areegarden.com
Librarista 



           ร้านกาแฟกึ่งห้องสมุดหนึ่งเดียวในเชียงใหม่ที่ให้บริการทั้งกาแฟรสชาติอร่อย พร้อมด้วยของหวานอย่างเค้กและเบเกอรี่หลากหลายอย่าง โดยดัดแปลงบ้านให้มาเป็นร้านกาแฟสุดเก๋ ในบรรยากาศที่น่ารัก ภายในร้านแบ่งออกเป็น 4 โซน คือ โซนนอกร้าน สำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศของการนั่งจิบกาแฟนั่งใต้ร่มไม้เย็น ๆ รับลมสบาย ๆ โซนภายในร้านที่เน้นการตกแต่งร้านแบบโมเดิร์น โซนห้องประชุม เป็นห้องสำหรับให้นักเรียน วัยรุ่น รวมทั้งวัยทำงานได้มีสถานที่สำหรับติวหนังสือ และโซนห้องสมุด ที่ถือเป็นจุดเด่นของร้านกาแฟแห่งนี้ เพราะเป็นห้องสมุดขนาดย่อมที่เต็มไปด้วยหนังสือต่าง ๆ มากมาย แต่มีการจำกัดการใช้ห้องสมุดไว้ 2 ชั่วโมงต่อ 1 บิล เพราะทางร้านต้องการให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันอย่างทั่วถึง แต่ถ้าใครที่อยากยืมหนังสือกลับบ้านก็ได้เช่นกันเพราะทางร้านมีระเบียบการยืม-คืนหนังสือด้วย

          บริการ : Free Wifi
         
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.
         
 ที่อยู่ : ถนนนิมานเหมินทร์ ซอย 5 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
         
 โทรศัพท์ : 0 5389 5678
         
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก LibraristaThe Bookshop




           The Bookshop Cafe เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์เล็ก ๆ โดดเด่นด้วยการตกแต่งที่ชวนให้นึกถึงหนังเรื่อง  Alice in Wonderland แต่ก็ให้อารมณ์ละม้ายเข้าไปอยู่ใน Hogwarts ในหนังเรืองแฮรี่พอตเตอร์ อยู่เหมือนกัน ซึ่งร้านจะมีบรรยากาศสบาย ๆ น่านั่งจิบเครื่องดื่ม ภายในร้านตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น ด้วยเฟอร์นิเจอร์แปลกตา เพดานร้านที่ตกแต่งด้วยหนังสือห้อยย้อยลงมาดูสวยงามไปอีกแบบ ส่วนโซนที่นั่งมีการจัดวางแบบผสมผสานระหว่างเก้าอี้ทรงสูง และโซฟาไว้ในจุดต่าง ๆ อย่างสวยงามส่วนเมนูอาหารของร้านเน้นประเภทอาหารยุโรป และอาหารสัญชาติไทย ๆ ให้บริการพร้อมเครื่องดื่มหลายชนิดอีกด้วย ส่วนเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตของร้านก็คือ กาแฟ, เครื่องดื่มค็อกเทล และไวน์ เป็นต้น 

           บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
          
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-24.00 น.
          
 ที่อยู่ : G Floor แอชตัน คอนโดมิเนียม สุขุมวิทซอย 38 (BTS ทองหล่อ) กรุงเทพฯ
          
 โทรศัพท์ : 02 187 4949
          
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก The BookshopThink Tank






           ร้านกาแฟธรรมดา ที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าของร้าน ที่เน้นให้เป็นเหมือนศูนย์รวมความรู้ พร้อมทั้งเป็นพื้นที่ อิสระสำหรับจัดกิจกรรม นิทรรศการ และยังเป็นศูนย์รวมโครงการต่าง ๆ เพื่อคืนกำไรให้แก่สังคมอีกด้วย เช่น การรับบริจาคหนังสือ, รับบริจาคฝาปิดกระป๋อง สำหรับทำขาเทียม เป็นต้น  แถมทางร้านยังมุ่งเน้นการต้อนรับ ทั้งคนทำงาน กลุ่มนักศึกษา ที่จะมาผ่อนคลายด้วยการนั่งจิบกาแฟ, อ่านหนังสือ, ทำงาน ได้อีกด้วย โดยภายในร้านแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ โซน Out of the box สำหรับจัดนิทรรศการ หรืองานแสดงต่าง ๆ และโซนคาเฟ่ตรงกลาง สำหรับนั่งเล่นพูดคุย ทานอาหารอร่อย ๆ ซึ่งมีที่นั่งให้เลือกหลายแบบ โดดเด่นด้วยโซนห้องสมุด สำหรับนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อีกด้วยส่วน สำหรับเครื่องดื่ม ได้แก่ กาแฟสดทั้งร้อนและเย็น, DIY Fresh Yogurt, Blue Hawaii ทานคู่กับเมนูขนมหวาน เช่น Homemade Waffle, Apple Tart, Chocolate Fudge Cake เป็นต้น

           บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
          
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
          
 ที่อยู่ : 9 ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
          
 โทรศัพท์ : 08 6784 9384
          
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Think Tank (third place)My Café the Library



         ร้านอาหารในห้องสมุดบนถนนเกษตร-นวมินทร์ โดยรวมทั้งสองอย่างเอาไว้ในร้านเดียวได้อย่างงตัว โดดเด่นด้วยหนังสือเก่าและใหม่ รวมทั้งหนังสือหายากว่า 200 เล่ม โดยร้านนี้เป็นร้านที่ต่อยอดมาจาก My Cafe ในโรงแรม My Hotel เน้นการตกแต่งด้วยคอนเซ็ปต์ The Simply Stylish แต่ร้านนี้ตกแต่งในสไตล์ผสมผสานระหว่างร้านอาหารในห้องสมุด โดยบริเวณโดยรอบของร้านจะตกแต่งด้วยชั้นหนังสือขนาดใหญ่ ซึ่งที่นี่แบ่งตัวร้านออกเป็น 2 ส่วน คือ ชั้นล่างและชั้นลอยที่เต็มไปด้วยหนังสือเช่นกัน แถมยังมีบริการรับซื้อ-ขาย-แลก-เปลี่ยน และรับซ่อมหนังสือเก่าอีกด้วย สำหรับเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ กาแฟสด, เค้ก และน้ำผลไม้สมูทตี้ นอกจากนี้ ยังมีบริการเมนูอาหารจานเดียวให้เลือกมากมายเช่นกัน

        บริการ : Free WiFi
       
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
       
 ที่อยู่ : ชั้น 1 อาคารนวมินทร์ซิตี้อเวนิว ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯโทรศัพท์ : 0 2907 2220
       
 เว็บไซต์ : mycafethailand.com และ เฟซบุ๊ก mycafe thailand Study Room Cafe


         ร้านกาแฟสบาย ๆ ที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าของร้าน ที่อยากมีร้านกาแฟน่านั่ง แอร์เย็น ๆ สบาย ๆ พร้อมทั้งมีเครื่องดื่มอร่อย ๆ ทำให้ร้าน Study Room Café จึงมีบรรยากาศสบาย ๆ เหมาะสำหรับนั่งพูดคุย หรือเป็นสถานที่เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานได้เป็นอย่างดี ภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ เป็นบ้านไม้สีขาวดัดแปลงมาเป็นร้านกาแฟ โดยสามารถเลือกนั่งพักผ่อนได้ทั้งชั้นบน ชั้นล่าง และสนามหน้าบ้าน แถมยังมีห้องส่วนตัวในชื่อ "ห้องต้องประสงค์" ในการเช่าประชุมหรือติวหนังสือได้อีกด้วย รวมทั้งมีการ Work Shop ในหัวข้อและเทคนิคต่าง ๆ สำหรับผู้สนใจอีกด้วย สำหรับเมนูภายในร้านมีทั้งเมนู กาแฟ, Caramel Macchiato, Caramel Latte, Mocha และน้ำผลไม้ปั่น คู่กับของหวานอย่างเค้ก Honey Butter Toast และ Yummy Toast รวมทั้งมีเมนูอาหารจานเดียว สำหรับทานง่าย ๆ ไว้บริการในระหว่างนั่งพักผ่อนกับการอ่านหนังสือ หรือทำงานอีกด้วย

         บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
        
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.0 -23.00 น.
        
 ที่อยู่ : Study Room Cafe Free Education (สาขา 1) ชั้น 2 The Vue Bangkok ติดกับ the River Condo ปากซอยเจริญนคร 13 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 09 2267 0785 และ Study Room Cafe Free Education (สาขา 2) 643/14 ประชาอุทิศ 47 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 09 2267 0785
        
 เว็บไซต์ : studyroomcafe.com และ เฟซบุ๊ก Study Room Cafeร้านสุนทรภู่




         ร้านหนังสือขนาดกลางตั้งอยู่ภายในอำเภอแกลง จังหวัดระยอง ถือเป็นร้านหนังสือที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย มีที่นั่งเล็ก ๆ สำหรับนั่งอ่านก่อนตัดสินใจซื้ออีกด้วย ภายในร้านตกแต่งในโทนสีฟ้าตัดกับชั้นวางหนังสือสีน้ำตาล และกรอบรูปภาพต่าง ๆ รายล้อมร้านด้วยกระจกให้สามารถชมวิวโดยรอบของร้านได้ ส่วนเครื่องดื่มของร้านสั่งจากเคาน์เตอร์เล็ก ๆ บริเวณทางเข้าร้าน แต่พร้อมไปด้วยเมนูเครื่องดื่มและของหวานที่หลากหลายให้เลือกอีกด้วย

        
 บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
        
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.
        
 ที่อยู่ : 38/1 ถนนโพธิ์ทอง เทศบาลเมืองแกลง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
        
 โทรศัพท์ : 08 6405 6502
        
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ร้านสุนทรภู่ ร้านหนังสือเล็กๆ ที่บ้านเกิด 1 อ.แกลง จ.ระยอง

Coffee in The Garden

เที่ยวเขาใหญ่ นั่งพักดื่มกาแฟบรรยากาศสวนน้ำตกริมทาง

แผ่นสังกะสีสีเงิน ที่ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้สูงใหญ่ รวมทั้งเหล่าไม้คลุมดินเติมแต่งบนผนังและหลังคาของร้านกาแฟเล็กๆริมทางใน อ.ปางช่อง เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจที่ต้องการทำตามความฝัน เจ้าของร้านแห่งนี้คือคุณเปรม สมาชิกกลุ่มบ้านไอเดีย คุณเปรมเป็นนักจัดสวน รับจัดสวนในนามของ บริษัทไลฟการ์เด้น แลนด์ สะเคป จำกัด มีผลงานเป็นที่รู้จักมากมายโดยเฉพาะในโซนเขาใหญ่
สำหรับร้านกาแฟนี้นับเป็นอีกหนึ่งผลงานล่าสุด โดยคุณเปรมเล่าให้กับทางทีมงานฟังว่า ร้านกาแฟเป็นอีกหนึ่งความใฝ่ฝันที่อยากทำมานานนับสิบปีแล้ว การบริการต่างๆภายในร้าน จึงไม่มุ่งหวังกำไรมากนัก แต่มุ่งเน้นทำตามความฝันแทน อยากให้ร้านกาแฟมีอะไร บริการแบบไหน ก็ทุ่มเทลงไปโดยไม่ต้องคำนึงถึงต้นทุนและกำไรมากนัก เชื่อว่าหากทำมาดี กำไรต่างๆย่อมได้กลับคืนมาเองอีกทั้งคุณเปรมเองมีต้นทุนต่างๆพร้อมไว้ใช้งาน ทั้งต้นทุนแรงงาน พื้นที่ร้าน วัสดุก่อสร้าง และต้นไม้นานาพันธุ์ การลงทุนเปิดร้านกาแฟ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากและใช้ต้นทุนไม่มากนัก ผู้อ่านท่านใดกำลังมองหาพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจในช่วงไปเที่ยวเขาใหญ่ ชมรีวิวพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศสวนธรรมชาติกันครับ
แฟนเพจ :  Coffee in The Garden
พิกัด GPS 14.658415, 101.405089
ภาพ | เนื้อหา : บ้านไอเดีย

แบบร้านกาแฟ Society Café

แบบร้านกาแฟ Society Café นี่ได้รับการออกแบบโดย Ben Rolls จาก Simple Simon Design

แบบร้านกาแฟ society cafe

society-cafe-bath
society-cafe-bath1
society-cafe-bath2
society-cafe-bath4

แบบร้านกาแฟ Café/day ที่ Shizuoka, Japan.

แบบร้านกาแฟ Café/day นี้ถูกออกแบบโดย Suppose Design Office ตั้งอยู่ เมือง ชิซุโอกะ ที่ ญี่ปุ่น
1
2
3
4
5
6

แบบร้านกาแฟ Starbucks ‘The Bank’

แบบร้านกาแฟ Starbucks ‘The Bank’ ตั้งอยู่ที่เมือง อัมสเตอร์ดัม
starbucks-the-bank-concept
starbucks-the-bank-concept1
starbucks-the-bank-concept2
starbucks-the-bank-concept3
starbucks-the-bank-concept4
starbucks-the-bank-concept5
starbucks-the-bank-concept6

แบบร้านกาแฟ Caffe Streets

แบบร้านกาแฟ Caffe Streets นี้ตั้งอยู่ที่ เมือง ชิคาโก และ อิลลินอยส์ ออกแบบโดย Norsman Architects เน้นการออกแบบแนวโมเดิร์น ความหรูหราและสง่างาม และสิ่งสำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือมีการตกแต่งภายใน ที่ดูอบอุ่นและสบาย และในเวลาเดียวกันก็ดูมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยทีเดียว
caffe-streets-by-norsman-architects
caffe-streets-by-norsman-architects2
caffe-streets-by-norsman-architects3

แบบร้านกาแฟ Vanilla

แบบร้านกาแฟ Vanilla นี้ ตั้งอยู่ที่ เมือง เบอร์ลิน ถูกออกแบบโดย Ariel Aguilera และ Andrea Benyi
vanilla-berlin
vanilla-berlin1
vanilla-berlin2
vanilla-berlin3

แบบร้านกาแฟ Tully’s

แบบร้านกาแฟ Tully’s นี้ เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม ในเมือง Kagoshima, Japan
Tully’s-Coffee-Shop-Remm-Kagoshima
Tully’s-Coffee-Shop-Remm-Kagoshima1
Tully’s-Coffee-Shop-Remm-Kagoshima2
Tully’s-Coffee-Shop-Remm-Kagoshima3

แบบร้านกาแฟ Cribbar surf bar

แบบร้านกาแฟ Cribbar surf bar นี้ตั้งอยู่ เมือง Newquay ที่ อังกฤษ ออกแบบโดย Cornwall
cribbar-surf-bar
cribbar-surf-bar1
cribbar-surf-bar2
cribbar-surf-bar3
cribbar-surf-bar4
cribbar-surf-bar5
cribbar-surf-bar6
cribbar-surf-bar7

แบบร้านกาแฟ Starbucks Roy Street Coffee & Tea

แบบร้านกาแฟ Starbucks Roy Street Coffee & Tea นี่ตั้งอยู่ที่เมือง ซีแอตเทิล การตกแต่งภายในเป็นการผสมผสานระหว่าง ฝาผนังแผ่นไม้ และ เฟอร์นิเจอร์แบบโบราณ รวมกันออกมาให้บรรยากาศที่ดูอบอุ่นสบาย เป็นอย่างยิ่ง
starbucks-coffee-interior
starbucks-coffee-interior1
starbucks-coffee-interior2
starbucks-coffee-interior3
starbucks-coffee-interior4
starbucks-coffee-interior5
starbucks-coffee-interior7

แบบร้านกาแฟ Starbucks ใกล้กับศาลเจ้าชินโต

แบบร้านกาแฟ Starbucks ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับศาลเจ้าชินโต เมือง Dazaifu, ที่ญี่ปุ่น นั่นเอง รูปร่างหน้าตาการออกแบบที่ดูน่าประทับใจแบบนี้ ถูกสร้างจากไม้กว่า 2000 ชิ้นทำเป็นลักษณะ ถักเป็นตาข่ายแนวทแยงมุม ครอบคลุมทั้งด้านฝาผนังและเพดาน สวยงามโดดเด่นมากๆ
starbucks-Coffee-at-Dazaifu-Dazaifu-Tenman
starbucks-Coffee-at-Dazaifu-Dazaifu-Tenman1
starbucks-Coffee-at-Dazaifu-Dazaifu-Tenman2
starbucks-Coffee-at-Dazaifu-Dazaifu-Tenman3
starbucks-Coffee-at-Dazaifu-Dazaifu-Tenman4
starbucks-Coffee-at-Dazaifu-Dazaifu-Tenman5

แบบร้านกาแฟ Starbucks 15th Avenue Coffee & Tea Shop

แบบร้านกาแฟ Starbucks 15th Avenue Coffee & Tea Shop ตั้งอยู่ที่เมือง ซีแอตเทิล
Starbucks-15th-Avenue-Coffee-Tea-Shop-Seatle
Starbucks-15th-Avenue-Coffee-Tea-Shop-Seatle1
Starbucks-15th-Avenue-Coffee-Tea-Shop-Seatle2
Starbucks-15th-Avenue-Coffee-Tea-Shop-Seatle3
Starbucks-15th-Avenue-Coffee-Tea-Shop-Seatle5

แบบร้านกาแฟ Café Coutume

แบบร้านกาแฟ Café Coutume นี้ ตั้งอยู่เมือง ปารีส ฝรั่งเศส ออกแบบโดย Paris-based studio CUT architectures
Cafe-Coutume-Paris
Cafe-Coutume-Paris1
Cafe-Coutume-Paris2
Cafe-Coutume-Paris3
Cafe-Coutume-Paris4
Cafe-Coutume-Paris5
Cafe-Coutume-Paris6
Cafe-Coutume-Paris7

แบบร้านกาแฟ Cafè Foam

แบบร้านกาแฟ Cafè Foam สีสันสดใสแบบนี้ ตั้งอยู่ที่เมือง สตอกโฮล์ม ถูกออกแบบโดย Note Design Studio
cafe-foam
cafe-foam1
cafe-foam2
cafe-foam3
cafe-foam4
cafe-foam6
cafe-foam7
cafe-foam8
บุญรักษา - ดื่มแล้วได้บุญ ค้ำจุนพระศาสนา
ที่ตั้ง : หน้าวัดปันเสา คูเมืองด้านใน
เวลาเปิด-ปิด : 08.30-18.00 น. ทุกวัน
เบอร์โทร : 096-8670379
อาคารล้านนาสไตล์ด้านหน้าวัดปันเสา หากใครผ่านไปผ่านมาอาจจะไม่แน่ใจว่าขายอะไร แท้จริงแล้วอาคารหลังนี้คือ ร้านกาแฟบุญรักษา เกิดจากแนวคิดของ พระมหาอาวรณ์ ภูริปญโญ เจ้าอาวาสวัดปันเส่า ที่มีแนวคิดอยากนำรายได้ส่วนนี้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่างๆของวัดและที่สำคัญกว่านั้นคือ ญาติโยมได้ดื่มกาแฟในราคาไม่สูงเฉลี่ย แก้วละ 40-45  บาท แต่มีห้องแอร์และฟรีไวไฟให้ใช้บริการ  
ในร้านมีทั้งโซน Indoor ห้องแอร์ด้านล่าง และโซน Outdoor ด้านบนให้ลูกค้าได้นั่งพื้นอย่างสบาย บรรยากาศโดยรอบมีสถาปัตยกรรมสวยๆภายในวัดให้เที่ยวชม 
เมนูมีทั้งเครื่องดื่มชา กาแฟและเบเกอร์รี่ แนะนำ กาแฟบุญรักษา ใช้น้ำผึ้งเพิ่มความหวานแทนน้ำตาลจึงมีความหอมเฉพาะตัว ราคา 55 บาท และ เครปเค้กเรนโบว์ เหมาะสำหรับสาวๆเพราะเน้นหวานน้อย ราคา 70 บาท
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Clay Studio Coffee In The Garden -  ไม่ต้องบินไกลก็ไปถึงเขมร 
ที่ตั้ง : บ้านพ่อเลี้ยงหมื่น หลังตลาดประตูเชียงใหม่ ถนนพระปกเกล้า ซอย 2 
เวลาเปิด-ปิด : 07.30-17.00 ทุกวัน
เบอร์โทร : 095-6754015
จากสวนขนาดเล็กที่เปิดเป็นสตูดิโอโชว์ผลงานปั้น ธุรกิจประจำบ้านของพ่อเลี้ยงหมื่นที่มีชื่อเสียงมากว่า 40 ปี ด้วยความแปลกจึงมีน้องท่องเที่ยวเดินเข้าออกตลอดเวลาเป็นว่าเล่น แนนและดรีม สองพี่น้องจึงเกิดปิ๊งไอเดียอยากใช้พื้นที่ตรงนี้ให้เกิดประโยชน์จึงเปิดร้านกาแฟเมื่อ 5 เดือนก่อน ซึ่งเน้นการตกแต่งให้เหมือนหลุดเข้าไปในโลกของนครวัด ประเทศกัมพูชา เมนูมีทั้งชา กาแฟ เบเกอรี่ เบียร์ อาหารจานเดียวและอาหารเช้า  

ด้านหน้าทางเข้าร้าน
บรรยากาศด้านในร่มรื่นใกล้ชิดธรรมชาติ มีเสียงนก น้ำตก กระรอกให้ได้เพลิดเพลิน ด้านในมีโชว์งานปั้นให้ดู ลูกค้าสามารถเรียนรู้งานปั้นฟรี 
ปลาทอดราดซอสแกงเขียวหวาน ปลาทอดกรอบนอกนุ่มใน แกงเขียวหวานกลมกล่อม ราคา 95 บาท มูสลี่โยเกิร์ตผลไม้รวม รวมราชาผลไม้ตามฤดูกาลทั้งกล้วย กีวี่ มะม่วง แก้วมังกร เสาวรส สับปะรด แอปเปิ้ล เสิร์ฟพร้อมโยเกิร์ต เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ 60บาท สลัดผักออร์แกนิค เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดแครนเบอร์รี่ทำเอง รสชาติหวานอมเปรี้ยว 60บาท
Rose Lychee Cooler น้ำลิ้นจี่ หวานอมเปรี้ยว เพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี 70 บาท  Mashmallow Cloud สดชื่นถึงใจ 70 บาท ชาเขียวมัจฉะ อร่อยหวานน้อย 60 บาท 
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Cerebrum & Friends - ประดุจหลุดไปในราชวังฝั่งยุโรป
ที่ตั้ง : ถนนสามล้าน ก่อนถึงประตูสวนปรุง
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-23.00 หยุดวันพุธ
เบอร์โทร : 085-0379824
หากใครมีโอกาสได้ขับรถผ่านไปผ่านมาย่านวัดพระสิงห์ คงสะดุดตากับร้านนี้ไม่มากก็น้อย เนื่องจากสไตล์การตกแต่งร้านที่ต้องบอกว่าเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลก จากจุดเริ่มต้นเปิดบริษัทรับออกแบบของกลุ่มเพื่อนย่านกลางเวียง จากนั้นจึงได้ขยับขยายย้ายมาที่นี่ได้เดือนกว่า สไตล์การตกแต่งร้านเน้นนำจุดเด่นของศิลปะยุโรปหลายยุคสมัยเข้ามาประยุกต์ด้วยกัน จึงเกิดเป็นความแปลกใหม่ที่ลงตัวและเป็นแหล่งรวม Celebrity อันดับต้นๆของเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ เมนูอาหารเน้นสไตล์ยุโรปทานได้ง่ายๆทั้ง  Breakfast, Salad, Sanwich ช่วงดึกมีเบียร์และไวน์จำหน่าย 
บรรยากาศในร้านมีหลากหลายมุมให้เลือกนั่ง โดยเน้นใช้ของที่ออกแบบเองและถ้าหากลูกค้าสนใจมีจำหน่ายด้วย 
Egg Benedict อาหารเช้าเพิ่มพลัง 100 บาท  BER มองแวบแรกอาจจะดูเหมือนเบอร์เกอร์ แท้จริงแล้วคือแซนวิช มีทั้งเบคอน ไข่และบาร์บีคิวซอส  75 บาท Purple Haze เครื่องดื่มผลไม้สด รวมทั้งสับปะรด บีทรูทและขิง ราคา 75 บาท 
Magic กาแฟ Signature เข้มข้นกลมกล่อม 75 บาท 
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 
Into The Woods - ดั่งฝันฉันใดในวัยเด็ก 
ที่ตั้ง : ถนนปกเกล้า ข้างร้านอ๋องทิพรส 
เวลาเปิด-ปิด :  ทุกวัน 09.00-20.00 น.
โทร : 081-5317793

Into The Wood  ร้านกาแฟสไตล์ Fairy tale ที่จะพาคุณย้อนเวลาไปสู่วัยเด็กได้  ด้วยไอเดียการตกแต่งร้านที่ใช้แนวความคิดเกี่ยวกับเทพนิยาย จึงทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ต่างพากันมากันย้อนวัยเด็กอย่างมากมาย ส่วนที่มาของคำว่า Into The Woods คือชื่อละครเพลงในดวงใจของคุณขิม ซึ่งในเนื้อเรื่องก็จะมีตัวละครต่างไม่ว่าจะเป็นหนูน้อยหมวกแดง ซินเดอเรล่า ราพันเซล ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นตัวละครขวัญใจสาวๆเลยก็ว่าได้ ส่วนเมนูก็มีทั้งกาแฟ เบเกอรี่ ชา และอาหาร  แต่เมนูที่ไม่ควรพลาด คือ Into The Woods และเค้กโรลสีสันสดใส  ซึ่งจะมีอยู่ 6 รสชาติให้เลือก    

ร้านกาแฟเชียงใหม่
เค้กโรลสีสันสดใสชิ้นละ 50 บาท 

ร้านกาแฟเชียงใหม่

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Bear Hug Cafe - แหล่งรวมคนรักน้องหมี 
ที่ตั้ง : ถนนคชสาร ใกล้ๆกับวิทยาลัยพานิชยการ เชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด :  09.00-18.00 น. หยุดวันพุธ
โทร : 053-206555

สำหรับแฟนคลับน้องหมีต้องร้านนี้  Bear Hug Cafe  โดยที่นี่จะเป็นบ้านไม้ 2  ชั้น ซึ่งชั้นบนจะเป็นแบบ  Open Air เน้นการตกแต่งสไตล์ของเก่า เหมาะที่จะมานั่งชิลในช่วงเย็นๆ แต่ถ้าหากอยากนั่งห้องแอร์ต้องชั้นล่าง เน้นการตกแต่งสไตล์น่ารักๆบวกความคลาสสิคเล็กน้อย  ส่วนที่มาของคำว่า  Bear Hug  เกิดจากการหาจุดร่วมความชอบของสองพี่น้อง คุณกิ๊บซึ่งเป็นพี่สาวชื่นชอบหมีเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนคุณกุ๊บ น้องสาว ชื่นชอบมวยปล้ำ จึงลงตัวที่  Bear Hug ซึ่งเป็นชื่อท่าหนึ่งในมวยปล้ำ (ซึ่งคู่ต่อสู้จะถูกกอดรัดเหมือนหมี)  เมนูมีทั้งอาหารเช้า เครื่องดื่ม และเบเกอร์รี่โฮมเมดให้เลือกอิ่มอร่อยกันหลากหลายรูปแบบ แนะนำ เท็ดดี้พาย สวีทแอนท์ซัมเมอร์โทสต์ และลาเต้ร้อน ที่จอดรถสามารถจอดได้บริเวณด้านหน้าร้านนครค้าไม้ได้เลย 

ร้านกาแฟเชียงใหม่
Sweet &Summer Toast 145 บาท 

ร้านกาแฟเชียงใหม่
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Cafe’ Roubaix (คาเฟ่ รูเบ) (ปิดปรับปรุง 1 เดือน)  - เพื่อนคู่ใจนักปั่น
ที่ตั้ง : ถนนนิมมาน ซ.5 ข้าง Librarista   
เวลาเปิด-ปิด :  09.30-19.00 น. 
โทร : 096-0044332

Cafe Roubaix  (คาเฟ่ รูเบ) ร้านกาแฟเล็กๆที่รู้จักกันดีในหมู่นักปั่นเมืองเชียงใหม่ต้องร้านนี้ เพราะด้วยความที่เจ้าของร้านมีความชื่นชอบในจักรยานเป็นชีวิตจิตใจ จึงอยากมีพื้นที่สำหรับพบปะพูดคุยสังสรรค์กัน จึงรวมตัวกันเปิดคาเฟ่แห่งนี้ขึ้นย่านสุดชิคอย่างถนนนิมมานฯ  โดยใช้ชื่อเมืองในทางเหนือของฝรั่งเศสมาเป็นชื่อร้าน เพราะเมืองนี้มีความสำคัญตรงที่จะมีการจัดการแข่งขันจักรยานแบบคลาสสิกที่ใช้ชื่อการแข่งขันนี้ว่า "ปารีส รูเบ" ขึ้นทุกปี และด้วยการแข่งขันนี้มีชื่อเสียงมานานในหมู่นักปั่นน่องทอง ทางร้านจึงจำลองพื้นหน้าร้านเหมือนสนามแข่งขันของงานนี้ด้วย เมนูแนะนำ  Caramel Macchiato 85 บาท
ร้านกาแฟเชียงใหม่
Caramel Macchiato 85 บาท

ร้านกาแฟเชียงใหม่
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Fresh & Wraps - ลอนดอนคาเฟ่ กิ๊บเก๋ที่เชียงใหม่ 
ที่ตั้ง :  ปากซอยมูลเมือง 5 คูเมืองด้านใน ก่อนถึงแจ่งศรีภูมิ 
เวลาเปิด-ปิด :  ทุกวัน 09.00-18.00 น. 
โทร :  084-931-6053

Fresh & Wraps  ร้านที่เน้นการตกแต่งในสไตล์ลอนดอนคาเฟ่เหมือนอยู่ในประเทศอังกฤษ วัตถุดิบที่ใช้ในร้านเน้นของสดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ออร์แกนิค  ซึ่งคือที่มาของคำว่า Fresh & Wraps ที่เป็นชื่อร้านนั่นเอง  เมนูอาหารมีทั้งอาหารเช้าแบบทานได้ทั้งวันทำกันสดๆ หรือถ้าหากใครอยากทานเมนูใหม่ๆก็สามารถนำวัตถุดิบมาฝากที่ร้านทำให้ก็ได้  ส่วนเครื่องดื่มก็จะมีสมูทตี้และกาแฟ แนะนำ Mocha 70บาท และ Poppy Cranberry White Choc Scone 65 บาท

ร้านกาแฟเชียงใหม่
Mocha ร้อน 70 บาท / Peanutbutter pie 90 บาท และ Latte เย็น 80 บาท

ร้านกาแฟเชียงใหม่

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Maew Moth Cat Cafe' - พื้นที่เท่ๆของคนรักน้องแมวเหมียว 
ที่ตั้ง : ซ.วัดอุโมงค์ เยื้องๆกับสินธนารีสอร์ท  
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-20.00 น. หยุดวันอังคาร
โทร : 095-4468141
ข้อแนะนำ : กรุณาปฎิบัติตามกฎที่ทางร้านตั้งไว้ จะเป็นผลดีต่อน้องเหมียวอย่างมาก

Maew Moth Cat Cafe'  คาเฟ่น้องแมวชื่อดังย่านหลังมช. ด้วยความน่ารักของน้องแมวจึงทำให้มีลูกค้าต้องต่อคิวรอเพื่อที่จะเข้าไปชื่นชมความน่ารัก ขี้อ้อน ของน้องแมวที่คาเฟ่แห่งนี้กันอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในวันเสาร์อาทิตย์ถึงขนาดที่ว่าต้องโทรจองคิวก่อน ไม่งั้นไม่ได้เข้า แต่ทางร้านเขาขอจองวันต่อวันเท่านั้นนะ  ส่วนไอเดียที่เปิดคาเฟ่แห่งนี้ขึ้นมา เกิดจากความชื่นชอบน้องเหมียวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วของเจ้าของบวกกับที่เคยเข้าไปในคาเฟ่แมวที่กรุงเทพมา และเล็งเห็นว่าที่เชียงใหม่ยังไม่มีจึงอยากเปิดบ้าง จึงได้ร่วมหุ้นกันกับเพื่อนเปิดร้าน โดยแมวที่นี่มีหลายพันธุ์ ประมาณ 20 ตัว เมนูแนะนำไอศกรีมเครปเย็น และลาเต้เย็น  ส่วนที่จอดรถมอเตอร์ไซค์สามารถจอดหลังร้าน และที่จอดรถยนต์สามารถจอดได้ที่สินธนารีสอร์ท บัตรจอดรถสามารถนำมาเป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่มและอาหารได้

ร้านกาแฟเชียงใหม่
ไอศกรีมเครปเย็น 70 บาท และลาเต้เย็น 60 บาท 

ร้านกาแฟเชียงใหม่
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

Coffee Villa - โรงนาของคนอังกฤษ 
ที่ตั้ง : โครงการ The Chill Park หางดง 
เวลาเปิด-ปิด :  ทุกวัน 07.00-20.00 น.
โทร : 053-447620 

บ้านกาแฟหลังเล็กในโครงการ The Chill Park ย่านหางดง ที่เน้นการตกแต่งสไตล์ English Country แห่งนี้ เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 1 ปี ด้วยความคิดที่อยากให้เมืองเชียงใหม่มีร้านกาแฟดีๆ แนวยุโรปให้ได้ไปนั่งชิล ถ่ายรูปเช็คอินกันบ้าง จึงเกิดร้านนี้ขึ้นมา และมี Mascot ประจำร้านที่ใครเห็นต่างเป็นอันต้องสะดุดตา นั่นคือ น้องกวางนั่นเอง งานนี้ใครที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมยุโรปและอยากมีที่ถ่ายรูปสวยๆก็แวะไปร้านนี้กันได้ เมนูแนะนำ Coffee Villa และช็อคโกแลตลาวา

ร้านกาแฟเชียงใหม่
คาปูชิโน่ร้อน 55 บาท และช็อกโกแลตลาวา 95 บาท 

ร้านกาแฟเชียงใหม่

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

The Barn : Eatery Design - Folk Loft สไตล์ที่คนไทยเข้าถึงได้
ที่ตั้ง : ซ.ไก่ทอด CMU หน้าคณะเภสัช มช.
เวลาเปิด-ปิด :  ทุกวัน 10.00-01.00 น. 
โทร : 084-2228937

The Barn : Eatery Design  ร้านกาแฟกึ่งแกลเลอรี่ สไตล์ Folk Loft ที่เน้นใช้วัสดุสไตล์โรงงานในการตกแต่งร้านไม่ว่าจะเป็นเหล็ก ไม้หรือกระจก ซึ่งในแต่ละเดือนก็จะมีการเพ้นท์กระจกลวดลายใหม่ๆเพื่อให้ดูสวยงามแปลกตา โดยบรรยากาศในร้านก็จะมีพื้นที่โล่งโปร่งสบาย สามารถนั่งทำงานอ่านหนังสือได้อย่างสบายๆ เพราะเปิดถึงตีหนึ่ง ส่วนที่มาของคำว่า The Barn : Eatery Design คือโรงนาที่มี Design ไม่ว่าจะเป็นร้านหรือเมนูที่เจ้าของคิดสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างลงตัว แนะนำ The Barn Coffee และ Brownie 

ร้านกาแฟเชียงใหม่
The Barn Coffee 65 บาท และ Brownie 49 บาท 

ร้านกาแฟเชียงใหม่

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

Marble Arch - จิบกาแฟสไตล์ผู้ดีอังกฤษ 
ที่ตั้ง : ถนนนิมมานเหมินทร์ ซ. 9  
เวลาเปิด-ปิด :  09.00-17.00 น. ทุกวัน
โทร : 053-212323

ด้วยความที่คุณเก่ง เจ้าของร้านหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงมีธุรกิจของตัวเองหลายโครงการ จึงอยากหาที่ดีๆสักที่หนึ่งเพื่อรองรับลูกค้า เลยเกิดปิ้งไอเดียที่จะเปิดร้านกาแฟและด้วยความที่เคยไปเรียนและทำงานที่ประเทศอังกฤษมาก่อน จึงเน้นตกแต่งร้านสไตล์อังกฤษซะเลย ส่วนบรรยากาศในร้านก็จะเป็นที่โล่งโปร่งสบาย มีต้นไม้ร่มรื่น จึงเหมาะจะเป็นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือเป็นอย่างยิ่ง  และที่มาของคำว่า Marble Arch คือ ชื่อของซุมหินอ่อนตรงประตูทางเข้าสวนของ พระราชวัง Buckingham นั่นเอง ส่วนเมนูอาหารของที่นี่ก็จะมีทั้ง อาหารไทย กาแฟ และเบเกอร์รี่ เมนูแนะนำ บราว์นี่ สตรอเบอร์รี่สมูทตี้และชาเย็น
ร้านกาแฟเชียงใหม่
 สตรอว์เบอร์รี่สมูทตี้และบราว์นี่

ร้านกาแฟเชียงใหม่

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Penguin Ghetto - สตูดิโอของคนชอบดีไซน์ 
ที่ตั้งร้าน : ถ.เลียบคันคลองชลประทาน ทางไปสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี  
เวลาเปิด - ปิด :  10.00 - 20.00 น. ทุกวัน
โทร : 089 - 1833224

Penguin Ghetto  บ้านหลังเล็กที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นทั้งสตูดิโอออกแบบของ NOTDS  (None Other Than Design Studio)  และร้านกาแฟเพื่อใช้เป็นที่พบปะพูดคุยกับลูกค้า  ซึ่งในส่วนของการตกแต่งร้านกาแฟแห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่หาแรงบันดาลใจในงานศิลปะหรือหาที่ดื่มกาแฟ เมนูกาแฟเด็ดๆคงต้องยกให้ KORI KORI Coffee ที่น้ำแข็งทำมาจากกาแฟ บวกกับนมสดอุ่นๆ เทผสมรวมกันกลายเป็นลาเต้สุดกลมกล่อม ในราคาเพียง 70 บาท นอกจากนั้นก็ยังมี Rainbow Cake ที่เนื้อเค้กมีสีสันที่หลายหลาย ชวนให้ลิ้มลอง ราคาชิ้นละ 65 บาท และเบเกอรี่โฮมเมดอื่นๆให้เลือกทานอีกมากมายในราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละ 45 บาท งานนี้ใครอยากรู้จักร้านนี้ก็แวะไปกันได้ที่หมู่บ้านเพนกวิน ย่านถ.เลียบคันคลองชลประทาน ทางไปสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปีกันได้ 

ร้านกาแฟเชียงใหม่
 KORI KORI Coffee  70 บาท 

ร้านกาแฟเชียงใหม่

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ร้านกาแฟบะเก่า - รวมเรื่องเล่าในอดีต 

ที่ตั้งร้าน: ถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 6  
เวลาเปิด-ปิด:  เวลา 8.30 – 22.00 น.
โทร : 053-400781
บะเก่า  ชื่อ น่ารักๆ ในภาษาเหนือที่บ่งบอกถึงความเก่าแก่ของคน สถานที่ หรือแม้แต่ความสัมพันธ์  โดยร้านนี้เป็นร้านกาแฟคลาสสิคที่มีโต๊ะให้เลือกจำนวนจำกัด แต่ด้วยเอกลักษณ์การตกแต่งร้านที่เน้นใช้ของเก่า เปิดเพลงเก่า เครื่องดื่มเก่าๆที่หาทานยากในปัจจุบัน จึงทำให้มีลูกค้าแวะเวียนมาใช้บริการเป็นประจำและหากใครที่อยากหาที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือ ในมุมสงบเงียบท่ามกลางของเก่า ร้านนี้แหละเหมาะสำหรับคุณ ส่วน Wifi และปลั๊กไฟก็มีให้ตามมุมต่างๆในร้าน แนะนำ คือ  ไข่กระทะและบ่ะเก่ายกล้อ

ร้านกาแฟเชียงใหม่
โกโก้เย็น 35 บาท 

ร้านกาแฟเชียงใหม่
 
Coffee in The Garden ตั้งอยู่ที่ทางแยก อ.ปากช่อง เป็นทางผ่านเข้าสู่เขาใหญ่ พื้นที่ในการสร้างร้านกาแฟเป็นพื้นที่เดียวกับออฟฟิศไลฟการ์เด้น ซึ่งใช้ทำงานและเป็นสถานที่จัดเก็บพันธุ์ต้นไม้ ทั้งไม้เล็กไม้ใหญ่นานาชนิด เพื่อใช้รองรับการจัดสวนให้กับลูกค้า คุณเปรมผู้เป็นเจ้าของร้านได้มีแนวคิดนำพื้นที่ดังกล่าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ นอกจากจะสร้างรายได้จากร้านกาแฟแล้ว ยังส่งผลให้บรรยากาศของออฟฟิศดูครึกครื้นตลอดทั้งวัน กระตุ้นให้การทำงานเกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ดีอีกด้วย

การออกแบบร้าน เลือกใช้วัสดุที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ไม้ เหล็ก สังกะสี และกระจก ให้ความรู้สึกโปร่งอย่างเป็นกันเอง การก่อสร้างงานส่วนใหญ่คุณเปรมใช้ช่างจากบริษัทไลฟ์การ์เด้น ค่าแรงต่างๆจึงไม่มี ส่วนวัสดุบางชิ้น เลือกใช้ของที่มีอยู่ มีเพียงสิ่งเดียวที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มนั่นคือการตัดกระจกเท่านั้น ทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการตกแต่งและก่อสร้างไม่มากนัก จุดเด่นของร้าน เป็นการจัดสวนหลากหลายสไตล์ ทั้งสวนอังกฤษ สวนทรอปิคอล สวนน้ำตก สวนกระถาง ผสมผสานเพื่อให้เกิดไอเดียที่แตกต่าง และความผ่อนคลายที่ให้ความรู้สึกหลากหลาย ใครมานั่งจิบกาแฟที่นี่ นอกจากจะได้กลิ่นหอมกลุ่นยังได้ไอเดียจัดสวนไปอีกด้วยครับ

ทางเข้าร้านใช้ประตูกระจกโครงสร้างเหล็ก มือจับไม้ไผ่ มุมผนังทำเป็นชั้นวางของเพื่อให้สามารถวางสวนในแก้วกาแฟได้

พื้นที่นั่งของร้าน แยกออกเป็น 2 โซน โซนภายนอก และภายใน โดยภายในเน้นวัสดุไม้เป็นหลัก ทำให้เกิดโทนสีที่ดูอบอุ่น เฟอร์นิเจอร์ภายในร้าน เน้นงาน D.I.Y. ทำเอง เช่น ชุดโต๊ะกาแฟ ทำจากไม้พาเลท โดยโต๊ะใช้พาเลทไม้ 2 ชิ้น ท็อปโต๊ะเจาะเป็นช่องสี่เหลี่ยมเพื่อให้สามารถจัดวางกระถางต้นไม้ได้ ส่วนเก้าอี้นั่งใช้พาเลทไม้ 2 ชิ้นเช่นเดียวกัน ยึดให้เกิดความแข็งแรงด้วยเหล็กฉาก ทำให้โต๊ะและเก้าอี้ดูแข็งแกร่งเข้ากับสไตล์ของร้านมากยิ่งขึ้น รองด้วยเบาะนั่งบนเก้าอี้พาเลทไม้ ช่วยให้ลูกค้านั่งสบายได้อย่างยาวนาน ทั้งยังรู้สึกถึงความเป็นกันเองอีกด้วยครับ



โต๊ะพาเลทไม้ กับเก้าอี้ Bean Bag

ชุดโต๊ะกาแฟพาเลทไม้ ประหยัดงบทำด้วยตนเอง

ไอเดียจัดสวนบนโต๊ะกาแฟ
คลิกที่ภาพใดๆ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่ทั้งหมด

ภายนอก เน้นบรรยากาศแบบธรรมชาติ ให้ลูกค้าได้สัมผัสสวนธรรมชาติที่บรรจงตกแต่งขึ้นมา เฟอร์นิเจอร์ยังคงเป็นงานไม้ แต่เน้นเป็นไม้ที่ให้สีสันแบบไม้เก่า โทนสีอ่อน อาจจะสังเกตุเห็นได้ว่าบางส่วนดูเหมือนสีหลุดลอก นี่ไม่ใช่เป็นการหลุดลอกตามกาลเวลานะครับ แต่เป็นความตั้งใจให้เฟอร์นิเจอร์ดูเก่า ความไม่สมบูรณ์ของสีสันบางครั้งก็ให้ความรู้สึกสวยเก๋ไม่เบาเลย พื้นที่ส่วนต่างๆของร้าน ยังซ่อนไอเดียประหยัดไว้ค่อนข้างมาก เช่น ฐานหลอดไฟใต้หลังคา ใช้ไม้ เจาะรู เพื่อให้สามารถสอดอสายไฟและเสียบหลอดไฟได้


2 ความคิดเห็น:

  1. .ทำไมเธอเหมือนช้างจังอะ ช้างที่มอบชอบเธอมั้ง
    starvegas

    ตอบลบ
  2. เคล็บรับเพิ่มรสชาติให้ตัวเอง pussy888

    ตอบลบ